พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii
อรัญญา
1. ดิฉันเป็นภูมิแพ้อากาศ รักษาโดยการฉีดยาภูมิแพ้เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิ มาได้2ปี อาการดีขึ้น ต้องฉีดอีกนานไหมคะ และถ้าหยุดฉีดจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่ 2. สามีมีปัญหานอนกรน ติ่นมาอ่อนเพลียมาก มีคำแนะนำในการรักษาอย่างไรคะ จำเป็นต้องใส่เครื่องหรือไม่คะ และราคาเท่าไรคะ
พญ.ธิตินิจ
สำหรับคำถามข้อ 1 นะคะ เรื่องการรักษาภูมิแพ้ โดยการฉีดวัคซีน ถ้าฉีดแล้วอาการดีขึ้น ควรฉีดต่อเดือนละครั้งนานประมาณ 3-5 ปี (ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล) เพื่อกระตุ้นให้ระดับภูมิคงระดับสูงได้ตลอด แล้งถึงจะพิจารณาหยุดยาค่ะ หลังหยุดยา บางคนอาจจะยังมีอาการอยู่เล็กน้อย ไม่รุนแรงเหมือนก่อนการรักษา ทำให้ไม่ต้องใช้ยาปริมาณมากเหมือนก่อนค่ะ แต่ทั้งนี้ ควรทำคู่กับการดูแลสุขภาพทั่วไปให้ดี การรับประทารอาหาร ออกกำลัง พักผ่อน ร่วมกับหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ด้วยค่ะ
2. เรื่องนอนกรน หรือ ในทางการแพทย์เรียกว่า มีภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับค่ะ ควรรีบรักษาค่ะ เพราะจากประวัติ อ่อนเพลียทุกเช้าหลังตื่นนอน เป็นหนึ่งในอาการของโรคนี้ได้ค่ะ อาการอื่นๆ เช่น ปวดหัวตอนเช้า ง่วงนอนตอนกลางวัน ซึมเศร้า ฝันร้าย ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อยๆ หรือ มีควาต้องการทางเพศลดลงได้ค่ะ
การรักษา เนื่องจากว่าความรุนแรงของโรคนอนกรนนั้นมีหลายแบบ ซึ่งจะแยกได้ว่า ผู้ป่วยรุนแรงมากหรือน้อยนั้น ต้องผ่านการตรวจ sleep test ค่ะ หากไม่มาก อาจใช้เรื่องของการลดน้ำหนัก หากเป็นมาก จำเป็นต้องใช้เครื่องอัดความดันในขณะนอนหลับช่วยค่ะ หรือ บางรายก็ใช้การผ่าตัดค่ะ
Read more comments...
1st
ชอบมีเสียงซ่าๆในหู และหูอื้อเล็กน้อย ทุกครั้งเวลาที่ได้ยินเสียงดังๆเช่นในคอนเสิร์ต หรือที่ๆมีคนตะโกนเยอะๆ อยากทราบว่าอาการแบบนี้ผิดปกติอย่างไรคะ
การอยู่ในที่ๆมีเสียงดังมากๆ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดประสาทหูเสื่อมทำให้มีปัญหาในเรื่องการได้ยินได้ค่ะ ซึ่งอาการแสดงจะมีได้ตั้งแต่การได้ยินลดลง โดยเฉพาะหูข้างที่อยู่ใกล้กับลำโพงหรือที่ๆทำให้เกิดเสียงดัง หรือพบว่ามีอาการเสียงดังในหูตลอดเวลา เช่น เสียงเหมือนมีแมลงบินใกล้ๆหู หรือเสียงซ่าๆแบบที่คุณศุภาพิชญ์บอกก็ได้ค่ะ แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจเรื่องการได้ยินดีกว่าค่ะ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงสถานที่ๆมีเสียงดังค่ะ
Guest
หากโพรงจมูกอักเสบ ปล่อยไว้ แล้วไม่ไปหาหมอจะหายมั้ยคะ
สาเหตุของโพรงจมูกอักเสบนั้น เกิดจากการเป็นหวัด คือ เปนการติดเชื้อ ไวรัส อาการจะเป็นแค่ช่วงที่เป็นหวัดเท่านั้น สามารถหายเองได้ค่ะ. แค่ทานยาบรรเทาอาการ แต่ถ้ามีอาการเรื้อรัง เป็นๆหายๆ มีน้ำมูก อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในจมูกและโพรงไซนัส ทำให้เปนไซนัสอักเสบได้ค่ะ แนะนำให้พบแพทย์ดีกว่าค่ะ
ดิฉันมีอายุ19ปี มีเสมหะสีเหลืองตลอดวันสลับกับออกมาทางรูจมูก ทีละข้าง เวลาตื่นนอนก็จะมีเสมหะหรือน้ำมูกสีเหลืองมาตันอยู่ที่รูจมูก อยากทราบว่า 1ดิฉันเป็นอะไรคะ 2ควรชื้อยาหรือรักษายังไง 3ควรดูแลตัวเองอย่างไร
อาการมีเสมหะข้นเหนียวตลอดเวลานั้น สาเหตุที่พบได้บ่อยมักเกิดจากเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ , ภูมิแพ้ ทำให้มีอาการน้ำมูกไหลลงคอ ทำให้เกิดความรุ้สึกเหมือนมีเสมหะอยุ่ตลอดเวลา อาจพบร่วมกับมีอาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่สะดวก หากน้ำมูกมีสีที่เปลี่ยนไปเช่น เปลี่ยนเป็นเขียวหรือเหลือง. ร่วมกับมีอาการไข้ ปวดบริเวณโพรงจมูก หรือ ปวดศรีษะ อาจทำให้สงสัยเรื่องของการติดเชื้อที่โพรงไซนัสอักเสบได้ค่ะ อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเสมหะข้นเหนียวในลำคอตลอดเวลาได้ คือ โรคกรดไหลย้อนที่ลำคอ มีอาการได้หลากหลายมากสำหรับโรคนี้ หนึ่งในนั้นคืออาการจุกคอ. รู้สึกเหมือนมีเสมหะในลำคอตลอดเวลาได้เช่นกันค่ะ แต่จากอาการที่บอกมา หมอนึกถึงเรื่องของเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบหรือภูมิแพ้มากกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น. คงต้องอาศัยการตรวจร่างกายร่วมด้วยค่ะ ส่วนการรักษานั้น มีทั้งการให้รับประทานยา ร่วมกับการสอนให้คนไข้ล้างจมูกเพื่อล้างน้ำมูกร่วมกับการใช้ยาพ่นจมูกให้ถูกวิธีค่ะ
หนูอายุ18ใกล้19 เพญหญิง มีเสมหะสีเหลืองข้นตลอดวัน บางครั้งมันก็ขึ้นมาทางรูจมูก โดยเฉพาะเวลาตื่นเช้าขึ้นมามันมีเสมหะอยู่ที่จมูกข้างเดียว หายใจไม่สะดวกมากค่ะ อยากทราบว่า1หนูเป็นอะไรคะ 2ต้องรักษาหรือชื้อยาอะไรมากินรึเป่ล่าคะ 3.ต้องดูแลตัวเองยังไงคะ
มีน้ำมูกไหลลงคอครับ บางครั้งมีจมูกตันหายใจลำบากตอนกลางคืน ทานยาอะไรช่วยได้บ้างครับ ขอบคุนครับ
คุณchanon มีทั้งอาการคัดจมูกและน้ำมูกไหลลงคอ หมอแนะนำให้ไปตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัย และจะได้รับการรักษาได้ถูกต้อง. อาการน้ำมูกไหลลงคอน่าจะจำเป็นได้รับการล้างจมูก ร่วมกับการใช้ยาเสตียรอยด์พ่นจมูกซึ่งเปนยาที่สำคัญ ส่วนยาที่ลดอาการคัดจมูกนั้นไม่ได้เปนยาที่มีความสำคัญในการรักษาเป็นยาที่ใช้บรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งมีทั้งแบบยาพ่นจมูกและยาทานซึ่งจะมีในเฉพาะ รพ เท่านั้นค่ะ แต่ตามร้านขายยาจะมีแต่ยาพ่นจมูกเท่านั้น เป็นยาในกลุ่ม ออกซีเมตาโซลิน เช่น อิลิอาดิน , นาโซลินเป็นต้นค่ะ แต่เป็นยาที่มีผลข้างเคียงหากใช้ผิดวิธี ดังนั้นคำแนะนำ คือ ใช้ยาเวลาที่มีอาการคัดจมูกเท่านั้นและไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3-4 วันค่ะ ไม่เช่นนั้นจะเกิดอาการคัดจมูกมากกว่าเดิมได้ค่ะ
หลังๆมีอาการหน้ามืดเวียนหัวเวลาเปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นนอนราบลงทุกครั้ง หรือหันหน้าเร็วๆประมาณ 90 องศา โดยอาการหน้ามืดเวียนหัวนี้จะมีอาการประมาณไม่เกิน 10 วินาที ไม่ทราบว่าเกิดจาสาเหตุใดได้บ้างครับ
อาการเวียนศรีษะ คงต้องแยกก่อนว่า
1. เวียนศรีษะอย่างเดียว
ซึ่งเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น เกิดความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต อาทิเช่น ความดันโลหิตที่เปลี่ยนแปลงในขณะเปลี่ยนท่า ที่พบได้บ่อยๆคือ ในคนไข้ที่ทานยาลดความดัน แล้วพบว่ามักมีอาการเวียนหัวเวลามีการเปลี่ยนท่า เช่นจากนั่งเป็นยืน หรือจากยืนเป็นนั่ง อาการมักเป็นเพียงครู่เดียว ส่วนสาเหตุอื่นๆ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ , ภาวะขาดน้ำ , ภาวะซีด ขาดธาตุเหล็ก , ผลข้างเคียงจากยาที่รับประทานได้ เป็นต้น ซึ่งต้องอาศัยเรื่องของการซักประวัติและตรวจร่างกายและเชคเลือดร่วมด้วย ในกรณีที่รุนแรง คือ มีอาการเวียนหัวแล้วมีอาการสูญเสียการทรงตัว เช่นเป็นลม หมดสติ อาจต้องระวังว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของการทำงานของหัวใจได้ เช่น. หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ จากสมอง ที่เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงในระยะฉับพลันทำให้เกิดการหมดสติได้
2. เวียนศรีษะร่วมกับมีอาการบ้านหมุน เป็นอาการที่มองเห็นว่าสิ่งต่างๆรอบตัวหมุน ถ้าเป็นแบบนี้ สาเหตุหลักเกิดได้จาก
1. มีความผิดปกติในสมอง มักพบได้ในเคสที่มีปัญหาที่หลอดเลือดสมอง อาทิ หลอดเลือดสมองตีบหรือมีเลือดออกในสมอง หรืออาจเจอได้ในผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนได้เช่นกัน
2. ความผิดปกติที่หู โดยเฉพาะหูชั้นในที่เป็นตำแหน่งตวบคุมการทรงตัว โรคที่พบได้บ่อย เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในหลุด , โรคมีเนียร์ หรือเกิดจากการติดเชื้อของหูชั้นกลางได้เช่นเดียวกัน
จะเห็นว่า. อาการเวียนศรีษะนั้นเกิดได้จากหลายโรคมากค่ะ ดังนั้นการจะวินิจฉัยโรคให้ชัดเจนต้องอาศัยทั้งประวัติและการตรวจร่างกาย รวมถึงการส่งตรวจบางอย่างเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ ดังนั้น หมอแนะนำให้ไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทางดีกว่าค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีอาการปวดบริเวณดั้งจมูกตั้งแต่ปลายปี 56 หาหมอ ตรวจว่าเป็นไซนัส รักษาไป ไม่เป็น เหลือแค่ภูแพ้อากาศ เพราะถ้าอากาศเย็น ฝนตก จะปวดมากๆๆเลย รับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนก่อนได้ทำ ct และพบหมอ 27/8/59 พบก้อนเนื้อที่โพร่งตรงโหน่งแก้มข้างขวานะคะ จับไม่เจอจากภายนอก ก็เคยสงสัยตัวเองว่าทำไมปวดปริเวณแก้มด้วยไปถอดฟันมาแล้วซี่ หนึ่งด้วย นึกว่าปวดเพราะฟัน คุณไม่บอกเป็นก้อนเล็กๆๆและเป็นตำแหน่งที่กล้องส่องถึง หมอให้กลับบ้านและให้ยาแก้ปวด ยาพ่น เหมือนเดิม เพิ่มมาคือ ยารักษาปลายประสาท วันจันทร์เริ่มมีอาการเคืองตาข้างขวา วันอังคารเริ่มมากขึ้นมีปวดในตอนเย็น วันนี้ปวด แสบๆๆเหมือนตาแห้ง มีขี้ตาสีเหลืองขุ่นที่หัวตาและหางตา (บริเวณที่เป็นด้านใบหูค่ะ) กดบริเวณโหนกแก้มใกล้ตารู้สึกปวด หลับตารู้สึกว่าตามีความหนาของเนื้อด้านล่าง(แดงเรื่อๆๆ) หมอนัดอีกที่ 7 พ.ย 59 เรียนปรึกษาคุณหมอ ตาที่เจ็บสัมพันธ์กับก้อนเนื้อหรือเปล่าค่ะ ควรกลับไปหาหมอก่อนนัดหรือไหมค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
อาการของคุณ siriluk นั้น หมอขอแนะนำว่าให้ไปตรวจก่อนนัดกับคุณหมอที่ทำการรักษาดีกว่าค่ะ เนื่องจากอาการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อวัยวะตากับจมูกนั้นมีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากท่อน้ำตานั้นมาเปิดระบายที่โพรงจมูกข้างแก้ม และโพรงไซนัสบริเวณข้างจมูกนั้นอยู่ใกล้กับตา หากมีการติดเชื้อของโพรงไซนัส หรือมีก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อในโพรงจมูกไปอุดทางระบายของท่อน้ำตา ก็จะทำให้คนไข้มีอาการทางตาร้วมด้วยได้ค่ะ ซึ่งการตรวจร่างกายร่วมด้วยนั้นจะช่วยให้ได้ข้อมูลมากขึ้เพื่อช่วยในเรื่องการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาค่ะ
guest
คุณหมอคะ หนุรู้สึกเหมือนมีแมลงเดินอยู่ในหูข้างขวาเป็นพักๆมา 4 วันแล้วค่ะ หนูเลี้ยงแมว นอนกับแมวทุกคืน เคยมีคนบอกว่าเห็บแมวจะเข้าไปอยู่ในหูได้ ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่าคะ อันตรายมั้ยคะ ต้องหยอดน้ำมันเข้าไปในหูเพื่อฆ่าเห็บมั้ยคะ
พวกเห็บหรือแมลงสามารถเข้าไปในหูเราได้ค่ะ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกว่ามีอะไรในหูได้. บางครั้งอาจมีอาการปวดร่วมด้วยได้. หมอไม่แนะนำเรื่องการหยอดนำ้หรือนำ้มั้น หรือการใช้ไม้แหย่เข้าไปในรูหู เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาทีหลังได้ค่ะ. แนะนำให้ไป. รพ. ใกล้เคียงพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจดูดีกว่าค่ะ และหากพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมจริงจะได้ทำการคีบออกได้ทันทีนะคะ
B.itsara
ลูกสาวคนแรกเพิ่งคลอดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งครับ ตรวจหูและการได้ยิน2รอบหลังคลอด ปรากฏว่าไม่ผ่านครับ เครียดกันทั้งบ้าน ภรรยาผมเริ่มโทษตัวเองว่าตอนท้องไม่ดูแลตัวเอง ตอนนี้รอหมอนัดตรวจครั้งต่อไป ต้องรอถึง4สัปดาห์ ผมทำใจไม่ได้ครับ ผมจะทำยังไงดีครับถ้าทดสอบอีกรอบแล้วก้ยังไม่ผ่านอีก อยากทราบแนวทางการรักษาครับ ขอบคุณครับ
แนะนำว่าอย่าเพิ่งกังวลนะคะ การตรวจการได้ยินหลังคลอดนั้นเป็นเพียงการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ยังไม่ได้หมายความว่า เด็กที่ตรวจไม่ผ่านนั้นจะมีปัญหาเรื่องการได้ยินจริงๆ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้การตรวจคลาดเคลื่อนได้ค่ะ เช่น รูหูแคบไป มีขี้หู หรือในช่วงหลังคลอดใหม่ๆนั้นยีงมีน้ำคร่ำในหู ซึ่งก่อนตรวจการได้ยินนั้นควรตรวจหูให้ละเอียดก่อน หากตรวจละเอียดแล้ว ไม่พบลักษณะดังกล่าว แล้วการตรวจการได้ยินนั้น ไม่ผ่าน. ก็ต้องดูว่า ไม่ผ่านข้างเดียวหรือ ทั้ง 2ข้าง หากเป็นข้างเดียว อีกข้างปกติ พัฒนาการของเด็กจะเหมือนกับเด็กปกติทั่วไปเนื่องจากอีกข้างนั้นยังได้ยินอยู่ ถ้าเป็นกรณีนี้ อาจรอให้อายุครบ 6 เดือนแล้วตรวจการได้ยินของระบบประสาทหูข้างที่ไม่ผ่านเพื่อการวินิจฉัยให้แน่ชัด แต่ถ้าหากตรวจไม่ผ่านทั้ง 2 ข้าง สามารถเริ่มตรวจการได้ยินของระบบประสาทหูได้ตั้งแต่อายุประมาณ 2-6 เดือนได้ค่ะ ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ สามารถสังเกตพอได้ว่า ลูกนั้นมีหันตามเสียงเรียก หรือตกใจเวลาไดยินเสียงดังๆรึเปล่า ก้อสามารถพอบอกคร่าวๆได้ว่าการได้ยินของลูกนั้นปกติหรือไม่ค่ะ
สำเร็จ
