chocolate cyst มีการรักษาได้2แบบค่ะคือการผ่าตัด กับไม่ผ่าตัด
การผ่าตัด คือการลอกซีสต์ออก และเลาะพังผืดในกรณีมีพังผืดร่วมด้วย หรือบางคนถ้าตัวโรคเป็นเยอะมาก มีการลุกลามของโรคเข้าไปในเนื้อมดลูกด้วย อาจต้องตัดมดลูกร่วมด้วย การผ่าตัดมักจะทำเมื่อมีข้อบ่งชี้้เช่น ปวดมากรักษาด้วยยาไม่หาย มีอาการประจำเดือนออกมากรุนแรง ก้อนขนาดใหญ่ ถ้าเป็นซีสต์เกิน4ซม ถ้าเป็นมดลูกใหญ่เกิน12ซม. หรือถ้าขนาดเล็กแต่สงสัยว่าเนื้อเยื่อนั้นมีมะเร็งแฝงตัวร่วมด้วย
การรักษาแบบไม่ผ่าตัดมีหลายวิธี ได้แก่
1.ใช้ยาแก้ปวดบรรเทาอาการ กรณีไม่ปวดมาก
2.ใช้ยาฮอร์โมนควบคุมซีสต์ ได้แก่ยาฉีดคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือห่วงฮอร์โมน
กรณีที่คุณกลัวเรื่องมะเร็งนั้น โดยปกติโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมจากการฉีดยาหรือกินยาคุม จะเกิดกับกลุ่มคนที่มีพันธุกรรมซึ่งตอบสนองต่อฮอร์โมน เกิดกับคนทั่วไปน้อยมากคือโอกาสเกิด 0.01%ถ้าใช้นานเกิน10ปี และมะเร็งเต้านมเป็นโรคซึ่งเกิดจากปัจจัยอื่นได้อีกมากมาย ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะใช้ฮอร์โมนหรือไม่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมหลังอายุ30ปี แนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี เริ่มตรวจแมมโมแกรมเมื่ออายุ35ขึ้นไปทุกปีอย่างต่อเนื่องค่ะ
ใน3ชนิดของการใช้ฮอร์โมน คือฉีด กิน ห่วงฮอร์โมนนั้น ห่วงฮอร์โมนมีผลต่อมะเร็งเต้านมน้อยที่สุด ยังไม่พลบรายงานการเกิดใะเร็งเต้านมที่สัมพันธ์กับห่วงฮอร์โมนเพราะฮอร์โมนจะถูกปล่อยจากห่วงปริมาณน้อยเฉพาะท่ี่เพื่อรักษาในอุ้งเชิงกรานเท่านั้น
ถ้าไม่รักษาใดๆเลย ก็สามารถทำได้ แต่ต้องสังเกตุอาการตนเอง หากปวดท้องมากขึ้น ประจำเดือนมากขึ้น ควรพบแพทย์ประเมินการรักษาว่าจำเป็นต้องใช้การรักษาทางใดทางหนึ่งหรือไม่
chocolate cyst ไม่ใช่มะเร็ง แต่ทำตัวเหมือนมะเร็งค่ะ โรคไม่มีทางหยุดนิ่ง โรคจะดำเนินไปเรื่อยๆ เมื่อตัวโรคไปถึงจุดหนึ่งที่มากขึ้นจำเป็นต้องรักษาต่อในอนาคตค่ะควรตรวจติดตามอย่างน้อยปีละครั้งค่ะ เพราะโอกาสที่ซีสต์จะเป็นมะเร็งคือ 0.1-0.3% ถ้าซีสต์โตเร็ว มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัย ต้องผ่าตัดพิสูจน์ค่ะ
โรคนี้ไม่หายขาดค่ะ เพราะเจริญเติบโตได้ด้วยฮอร์โมนในร่างกาย การรักษาด้วยการตัดทั้งมดลูกและรังไข่เพื่อหยุดฮอร์โมนในร่างกายทั้งหมด หรือถ้าเข้าวัยทองแล้วคือหมดฮอร์โมนแล้ว โรคจึงจะหายขาดค่ะ