พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii

ห้องถาม - ตอบ

สุขภาพจิต

  • Q ป่วยแพนิคและสมาธิสั้น

    17-02-2017 20:25:21

    ดิฉันได้ตรวจพบว่าเป็นโรคแพนิค ตั้งแต่ ปี 2556 และกินยาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ 6 ปีก่อน ถูกสามีนอกใจทำร้ายจิตใจ เอาคนใช้ในบ้านเป็นเมีย ทำให้ช็อคและรับไม่ได้ เนื่องจากสามีเป็นคนจิตใจดี ชอบสวดมนต์ ทำบุญ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวผู้หญิง (แต่งงานกันมา 15 ปี) มีลูกด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันลูกอายุ 11 ปีค่ะ หลังจากนั้นจึงขอแยกกันอยู่ โดยออกมาอยู่แมนชั่นใกล้ที่ทำงานตามลำพัง เพื่อให้ต่างฝ่ายทบทวนตัวเอง โดยลูกยังอยู่กับสามีเนื่องจากยังอยู่ระหว่างเทอม และกะว่าจบเทอมจะรับลูกมาอยู่ด้วย แต่สามีไม่ยอม และกีดกัน จนต้องฟ้องศาลเรื่องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร โดยใช้เวลานัดมาไกล่เกลี่ยอยู่ 2 ปี เพราะศาลเห็นว่า น่าจะเจรจายอมความกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างรักลูก ช่วงนั้นจะเครียดมาก แต่ปัจจุบันเรื่องลูกตกลงกันได้แล้วค่ะ และต่างฝ่ายต่างถอนฟ้องและหย่า เมื่อ ต.ค.58 ส่วนอาการมือสั่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วมาก หายใจไม่อิ่ม ร้อนวูบวาบ ชามือ ชาหน้า เวียนศีรษะ เวลาเครียดมากๆ หรือถูกกระทบกระเทือนจิตใจ จะกิดอาการไมเกรนรุนแรงร่วมด้วย จะปวดหัวมากจนหายใจถี่ และจะกลัวในอาการตัวเองจนน้ำตาไหล กลืนน้ำลายไม่ลง เหมือนแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อยากรีบไปโรงพยาบาล กลัวตัวเองจะขาดใจตาย มีเพื่อนทักว่า มีอาการเหมือนแพนิคที่เค้าเป็น จากนั้นจึงเริ่มไปพบจิตแพทย์ โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นแพนิค โดยให้ทาน Prozac Rivotril Depakine และ inderal ทุกวัน ส่วน Lorazepam ทานเฉพาะเวลามีอาการกำเริบ โดยได้ทานยาต่อเนื่องมาเกือบ 3 ปี อาการมือสั่นตลอดเวลาหายไป พอทานยาได้ 4 เดือนแรก ส่วนอาการอื่นๆ ก็ทรงๆ แต่เป็นห่างขึ้นเมื่อทานยามาได้ 2 ปี แต่ระยะนี้มีความเครียดเรื่องงาน เพราะทำงานเกี่ยวกับตัวเลข แต่กลับทำงานผิดพลาดบ่อยเพราะไม่ได้เรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง และมีปัญหาเกี่ยวกับการคุมรายจ่ายไม่ได้ รูดบัตรเครดิตจนเกินวงเงิน กู้สินเชื่อแทบทุกแบงค์ เห็นของอะไรจะยับยั้งชั่งใจไม่ได้เลย ไม่ว่าจะของกิน เสื้อผ้า หนังสือ เครื่องประดับ สุดท้ายเป็นหนี้มากมาย มีคนเคยแนะนำให้ตัดใจไม่ซื้อของ ให้คิดว่าไม่จำเป็น แต่ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ พอเห็นอะไรก็จะต้องซื้อให้ได้ ทั้งๆที่เงินก็ไม่พอใช้ ดิฉันจะรู้สึกมีความสุขและเพลิดเพลินมากเวลาได้เดินเลือกซื้อของ เหมือนจะลืมปัญหาต่างๆไปชั่วขณะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับมาถึงบ้านก็กลับมาเครียดว่าเราทำลงไปได้ยังไง ของซื้อมาจนเกลื่อนบ้าน แถมบางอย่างก็ไม่ได้ใช้ สุดท้ายก็มานั่งโมโหตัวเองว่าจะซื้อมาทำไม คนรอบข้างตักเตือนเป็นห่วงยิ่งทำให้เราผิดหวังในตัวเอง บางครั้งจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายเกรี้ยวกราด ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทำให้มีปัญหากับคนรอบข้างมากขึ้น พอเครียดทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องหนี้สิน รวมถึงอาการเจ็บป่วยของตัวเองที่เป็นสารพัดโรค ไมเกรน แพนิค กรดไหลย้อน นิ้วล็อค กระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ตึงคอบ่าไหล่ทุกวัน ยิ่งทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน ผลคืองานส่งช้ากว่ากำหนด ที่เล่ามาทั้งหมด คืออยากเรียนถามคุณหมอว่า อาการต่างๆเกิดจากโรคสมาธิสั้น และ Bipolar ร่วมด้วยใช่หรือไม่คะ สำหรับอาการซึมเศร้าจะเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่จะมีอาการพูดเร็ว พูดเยอะ มีคนทักเยอะว่าพูดให้น้อยๆหน่อยก็ดี และจะไฮเปอร์ในบางเรื่อง บางเรื่องก็เฉื่อยชาไม่มีความกระตือรือร้นจะทำอะไร มาทำงานสายแทบทุกวัน ทั้งที่ไม่ได้ตื่นสาย กลับทำโน่นนี่จนออกจากบ้านเลท ตอนนี้กลุ้มใจมากค่ะ รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นโรคประสาท และเสพติดการชอปปิ้งมากจนคนในครอบครัวระอา เพื่อนฝูงไม่อยากมาสุงสิง เพราะมองว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว หัวสูง ฟุ่มเฟือย แต่กลับมาอ้างว่าป่วย ทำให้สับสนในตัวเองว่า ตกลงเราเอาอาการป่วยมาอ้างอย่างคนอื่นว่ารึเปล่า หรือเกิดจากอาการป่วยทางจิตกันแน่ บางอารมณ์ที่เหงาๆหรืออยู่ลำพัง สมองก็แว่บมาว่า เบื่อชีวิต ไม่อยากมีชีวิต แต่ยังไม่ได้ถึงขั้นคิดสั้น อาจเพราะฤทธิ์ยาต้านเศร้าคุมอาการไว้ได้...ขอความกรุณาคุณหมอชี้แนะด้วยนะคะ


    22-02-2017 08:08:10

    1. อาการสมาธิสั้น เช่น วอกแวกง่าย ขี้ลืม เหม่อบ่อยๆ เกิดจากได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่โรคทางกายบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ หรือ ภาวะวิตกกังวล ปัญหาทางด้านอารมณ์เอง ความเครียดที่มากเกินไป โดยโรคสมาธิสั้นเองนั้นเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการมักพบอาการตั้งแต่ในเด็กๆ ถ้ามีอาการเหล่านี้ที่เพิ่งมาเกิดขึ้นในผู้ใหญ่มักต้องหาสาเหตุอื่นๆก่อน

    2. อาการพูดเก่ง ใช้จ่ายเงินเยอะ เป็นส่วนหนึ่งของอาการ Bipolar ในช่วง mania ได้ แต่จะพบร่วมกับอาการอื่นๆด้วย เช่น มีความต้องการนอนน้อยลง รู้สึกตัวเองมีพลังมากขึ้น มีความมั่นใจในตัวเอง ความคิดแล่นเร็ว มีกิจกรรมต่างๆเยอะมากขึ้น 

    ทั้งนี้ควรเล่าอาการดังกล่าว ให้จิตแพทย์ที่รักษาทราบ เพื่อจะได้ตรวจประเมินโดยละเอียด และปรับการรักษาอีกครั้งค่ะ

    ส่วนอาการใจสั่น หายใจไม่อิ่ม ตัวชา กลืนไม่ลง ท้องไส้ปั่นป่วน เป็นอาการของ Panic ได้ ในเบื้องต้น แนะนำให้ลองฝึก ผ่อนคลายด้วยการหายใจนะคะ ขั้นตอนดังนี้

    - หาบริเวณที่สงบ อาจนั่งหรือนอนราบ ให้รู้สึกสบาย

    - วางมือข้างหนึ่งที่หน้าท้อง อีกข้างที่บริเวณอก

    - สูดลมหายใจเข้าช้าๆ สังเกต มือที่ห้องยกขึ้นขณะหายใจเข้าสุด นับค้างไว้ช้าๆ 1 2 3 

    - ผ่อนลมหายใจออก สังเกตมือที่ท้องยุบตัวลง

    - ทำสลับ หายใจ เข้า ออก 10-15 ครั้ง สม่ำเสมอ

    การฝึกหายใจนี้จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ง่ายขึ้นค่ะ ช่วยลดอาการของ Panic ได้ดี

    สุดท้ายหมอขอชื่นชมที่คุณทานยา ติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ คนป่วยไม่ใช่คนจิตใจอ่อนแอนะคะ คนที่เผชิญหน้ากับความจริงเป็นคนเข้มแข็งเสมอค่ะ หมอดีใจที่คุณยังมีความหวังในการดำเนินชีวิตนะคะ ที่ผ่านมาแม้ว่าปัญหาอุปสรรคจะมีมาก แต่คุณก็ผ่านมาได้ อย่าลืมให้กำลังใจและชื่นชมกับความอดทนของตัวเองนะคะ

Loading ...
Success