พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii

ห้องถาม - ตอบ

หู คอ จมูก

  • Q ปวดหู ปวดคอ ลิ้นชา

    18-06-2017 14:28:36

    สวัสดีครับคุณหมอที่เคารพทุกท่าน สัปดาห์ก่อน ช่วงวันพุธหรือพฤหัสบดี ผมตื่นนอนขึ้นมาแล้วทุกอย่างยังปกติ แต่พอสายๆ นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ที่บ้านเหมือนทุกวัน จู่ๆ ก็ปวดแขนขวาจนยกแทบไม่ขึ้น จำเป็นต้องใช้แขนซ้ายช่วยยก จึงจะยกขึ้นในระดับหัวไหล่ได้ คลำนวดกล้ามเนื้อแขนไม่พบจุดกดเจ็บ แต่พอกดกระดูกหัวไหล่ด้านหน้า ปรากฏว่าเจ็บมาก และสามารถไล่ตามเส้นนี้ลงไปยังท้องแขนส่วนบนและล่างได้ตามแนวกระดูก (เจ็บที่ต้นแขนท่อนบนมากพอๆ กับที่หัวไหล่) ตกเย็นจึงไปยืดเส้นเบาๆ ไม่เหยียดดึงมาก และแกว่งแขนแบบจีน (ซึ่งทำอยู่บ่อยๆ แต่อาจไม่ต่อเนื่องนัก) วันต่อมา อาการที่แขนขวาก็ดีขึ้น แต่ตอนเช้าของวันเดียวกันนั้นเอง ที่หูขวากลับได้ยินเสียงวี้ตลอด และรู้สึกชัดว่าหูอื้อ จนระดับการได้ยินต่ำลงกว่าระดับปกติราวๆ สามสิบเปอร์เซ็นต์ ต่อมาอีกวัน (วันที่ ๓) อาการที่แขนก็เกือบจะเรียกว่าหายไป แต่อาการวี้ที่หูขวายังมีอยู่ ช่วงเช้ารู้สึกคล้ายแก้วหูกระพือแรงๆ จนตื่น ส่วนระดับการได้ยินเริ่มกลับคืนมา แต่ปัญหาใหม่ของวันนี้คือ ลิ้นซีกขวาเกิดอาการชา ปวดหัวแถวขมับขวา โดยเริ่มปวดไล่ขึ้นมาจากต้นคอ มึนหัวเมื่อก้มหน้าทำอะไรเร็วๆ เช่นล้างจาน (เคยมีอาการบ้านหมุนเมื่อราวๆ หกปีก่อน แต่ไม่ถึงกับต้องนอนซม แค่อยู่นิ่งๆ สักพักก็หาย) และมีอาการหนังตาขวากระตุกบ่อยๆ ทั้งที่ปรกติแทบไม่เป็น วันอังคารที่ผ่านมาจึงตัดสินใจไปหาหมอที่คลินิกประกันสุขภาพ เพราะกลัวอัมพฤกษ์อัมพาตและปัญหาการได้ยิน ได้ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากันโรคกระเพาะ วิตามินบีรวมสองขนาน (นอกบัญชียาหลัก ๑ ตัว) ยาคลายกังวลหนึ่งตัว (ให้มาสำหรับอาการหนังตากระตุก แต่ไม่ได้ทาน) ยาแก้ภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ (ทานเม็ดแรกแล้วง่วงมาก ต้องขับรถจึงเว้นไป เพิ่งมาทานเม็ดที่สองเมื่อคืน แต่ก็ล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออยู่ทุกวัน เช้าเย็น) จนวันนี้ ทานยาแล้วก็ยังมีเสียงวี้ที่หูด้านขวาอยู่ตลอด (ข้างซ้ายไม่วี้) ยังมีอาการแก้วหูกระพือจนตื่นอยู่สองสามครั้ง มีอาการชาที่ปลายลิ้่น แทนที่จะเป็นซีกขวาเหมือนช่วงแรกๆ อาการปวดต้นคอยังมีอยู่ และพาลทำให้ปวดหัวได้ในบางครั้ง โดยจะปวดเมื่อนั่งนานๆ และปวดที่กระดูกคอข้อที่ต่อกับลำตัวไล่ขึ้นมา โดยอาชีพแล้ว ผมเป็นนักเขียนอิสระ ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน และนั่งหน้าคอมจนเข้านอน ทั้งเพื่อทำงานและพักผ่อน เช่น ดูหนัง ที่ผ่านมาราวสี่ปีจะมีพฤติกรรมดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ก็หาโอกาสออกกำลังกาย และยืดเส้นช่วงสี่โมงเย็นถึงหกโมงเป็นพักๆ (เริ่มเมื่อปีที่แล้ว แต่อาจทำไม่ต่อเนื่องนัก ขึ้นกับว่างานเร่งหรือไม่) และจะมีเสียงดังก็อกเมื่อขยับคอบ่อยๆ โดยจะดังเฉพาะจากต้นคอด้านขวา บริเวณที่ติดกับฐานกะโหลก และทำให้เกิดอาการชาที่ลิ้นหรือริมฝีปากซีกขวาเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ โรคภูมิแพ้ที่เป็นนั้น เมื่อช่วงต้นปีนี้เคยถึงขั้นนอนไม่ได้ ต้องตื่นกลางดึกขึ้นมาสั่งน้ำมูกออกอยู่ราวๆ สองคืนติดกัน ซึ่งช่วงดังกล่าวนั้น จะมีลิ่มสีแดงคล้ำๆ หลุดออกมาจากจมูกทั้งสองข้าง และจามหนักมาก จึงหันมาเริ่มล้างจมูกเมื่อต้นปีนี้ อนี่ง อีกอาการที่ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่อยากเรียนให้ทราบเผื่อจะช่วยในการวินิจฉัยคือ จะมีอาการปวดหูมากเมื่อเครื่องบินกำลังจะลงจอด โดยเฉพาะหูขวาจะเป็นมากกว่าหูซ้าย แต่ก็จัดว่าปวดมากทั้งคู่ จะปวดจนเหมือนแก้วหูจะระเบิด และเกร็งไปทั้งตัว จนลงจากเครื่องสักพัก จึงจะมีเสียงดังปุที่แก้วหูและปวดมาก ก่อนอาการหูอื้อจะค่อยๆ ลดลง และจะกลับเป็นปรกติเมื่อผ่านไปหลายชั่วโมง ครั้งล่าสุดคือเมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ครอบครัวต้องบินไปลำปาง ก็ยังมีอาการดังกล่าวนี้อยู่ ขาลงที่ลำปางก็ปวดมาก โดยเฉพาะหูขวา ขากลับจึงปรึกษาแอร์โฮสเตจบนเครื่อง ซึ่งได้รับคำแนะนำให้ขยับกรามบ่อยๆ กับจิบน้ำอุ่น ซึ่งก็ช่วยได้ แต่ข้อสังเกตอีกอย่างคือ ระหว่างอยู่ที่ลำปางสองวัน ผมพยายามคลึงนวดที่ศีรษะข้างขวา ตั้งแต่ต้นคอไล่ขึ้นไปขมับ ซึ่งมักปวดเป็นประจำจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์มาหลายปีอยู่ก่อนไปด้วย ปรากฎว่า ขาลงที่กรุงเทพ (ซึ่งพยายามขยับกรามกับจิบน้ำอุ่นตามคำแนะนำไปด้วยแล้ว) อาการปวดหูข้างขวาที่เดิมเคยเป็นมากกว่าข้างซ้าย กลับปวดน้อยกว่าหูข้างซ้ายซึ่งไม่ได้นวด ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า อาการปวดหูตอนเครื่องบินลง และอาการหูวี้ ระดับการได้ยินลดลงไปสองวัน จะเกี่ยวพันกับอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อด้วยหรือไม่ และเมื่อเช้านี้เอง ระหว่างนอนตะแคงขวาครึ่งหลับครึ่งตื่น จู่ๆ ได้ยินเสียงดังคล้ายๆ เสียง "จู้ด" ก่อนแก้วหูสั่นกระพือคล้ายมีอะไรรั่วอยู่สองครั้ง (ได้ยินแล้วแก้วหูก็กระพือตามทันที จึงตื่นในครั้งแรกและตาสว่างแล้ว พอหยุดกระพือ ก็มีเสียงจู้ดอีกครั้ง ก่อนกระพือต่ออีกหน) ทั้งนี้เคยได้ยินจากคนรู้จัก ที่ก็มีอาการปวดหูระหว่างเครื่องบินลดระดับเช่นกันว่า อาการปวดหูดังกล่าวนี้ เป็นเพราะไซนัสตัน ทำให้ปวดหู (ซึ่งไม่ทราบว่าเกี่ยวพันกับอาการแก้วหูกระพือ อาการภูมิแพ้ เสียงดังวี้ หรือกดประสาทการได้ยินในช่วงนี้หรือไม่) นอกจากนี้ อยากเรียนสอบถามว่า อาการดังกล่าวทั้งหมดเหล่านี้ คือปวดคอ ปวดหัว ลิ้นชา และหูดังวี้ เกี่ยวพันกันหรือไม่ มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ กระดูกต้นคอเสื่อมแล้วไปกดทับเส้นประสาทหรือเปล่า ต้องเข้ารับการเอ็กซ์เรย์ (หรือ CT Scan? หรือ MRI?) เพื่อยืนยันหรือไม่ จะพัฒนาจนกลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรือไม่ และนอกจากไปพบแพทย์แล้ว ควรดูแลรักษาตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงนี้อย่างไรครับ ปล.ขออภัยที่ถามยืดยาว และขอบกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ครับ


    20-06-2017 06:05:05

    ตอบในส่วนของแพทย์ระบบประสาท อาการหลักๆเท่าที่เล่ามาน่าจะเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ยกเว้นอาการลิ้นและริมฝีปากชาซึ่งควรพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ชัดอีกครั้งว่าควรทำ MRI สมองหรือไม่ ส่วนเรื่องกล้ามเนื้ออักเสบแนะนำพบแพทย์เวชศาสตร์ฟฟื้นฟู อาจต้องมีการใช้อัลตร้าซาวด์ความร้อนช่วยในการรักษา เพราะอาการปวดค่อนข้างเรื้อรัง ไม่แนะนำให้กินแต่ยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆค่ะ


    24-06-2017 14:03:25

    จากที่บอกมา น่าจะมีปัญหาจากท่อปรับแรงดันที่เชื่อมระหว่างหลังโพรงจมูกและหูชั้นกลางนะคะ ส่วนใหญ่อาการที่ปรากฏจะเป็นตอนที่ take off , landing ขณะอยุ่บนเครื่องบิน แต่หากช่วงไหนที่เป็นหวัก มีเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ หรือมีไซนัสอักเสบร่วมด้วย จะทำให้มีอาการหูอื้อ อาจมีเสียงดังในหูร่วมได้ การรักษา จะเป็นการรักษาที่ป้องกันหรือบรรเทาสาเหตุมากกว่า คือ ลดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก ลดนำ้มูก เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาเสตียร์รอยด์พ่นจมูก , ลดการบวมของเนื้อเยื่อ เช่น ยาpseudoephredine , ยาพ่นจมูกลดบวมเฉพาะที่บางตัว ค่ะ งดการสั่งน้ำมูกแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้เนื้อเยื่อจมูกบวมมากขึ้น และอาการหูอื้อจะแย่ลงด้วย แต่ควรตรวจให้ละเอียดก่อนนะคะ เพราะ หากมีปัญหาเรื่องประสาทหูเสื่อมหรืออักเสบ ก็สามารถมีอาการแบบนี้ได้ แต่ที่นึกถึงน้อยเพราะ หากประสาทหูเสื่อม การเสียการได้ยินจะไม่ดีขึ้นเอง และมีเสียงดังในหูตลอดเวลาและบางคนมีอาการบ้านหมุนร่วมด้วยได้ดังนั้นแนะนำให้ไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทางและ รพ ที่มีห้องตรวจการได้ยินด้วยจะได้วินิจฉัยที่ชัดเจนกว่าค่ะ

     

Loading ...
Success