พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii

  • Q ลูกป่วย
    15-09-2016 11:07:00

    ลูกชายอายุ 11 เดือน เคยป่วยติดเชื้อ หมอระบุปอดบวม ต้องนอนรักษษตัวอยูที่ รพ 5 วัน 4 คืน แต่จริงๆหมออยากให้อยู่ดูอาการอีก 2 วัน เราวัยทำงานไม่มีเวลาเฝ้าก็เลยขอกลับบ้านมาดูแลที่บ้าน ปรากฎว่าน้องอาการดีขึ้นแต่มีน้ำมูกและเสลดมาโดยตลอด หายใจติดขัด ไม่มีไข้แต่หายใจไม่สะดวกต้องอุ้มนอน นอนหงายไม่ได้เลย ทั้งกลางวันกลางคืนตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์หลังจากออกมาจากรงพยาบาล ไม่แน่ใจว่าต้องกลับไปพบแพทย์อีกไหม เพราอาการยังอยู่แค่ไม่มีไข้ น้องร่าเริง กินนมปกติ แต่ข้าวไม่รับประทาน จนปัจจุบันตรวจเลือดที่โรงพยาบาลเด็กหมอระบุว่าน้องมีเกล็ดเลือดต่ำ เลือดจางด้วยน้องขาดธาตุเหล็ก และอย่างอื่นจำไม่ได้หลายอย่างรู้แต่ผลเลือดที่ออกมาค่าเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ทั้งหมด หมอให้เสริมนมวัวเนื่องจากน้องทานนมแม่มาเป็นระยะเวลา 11 เดือน นมแม่ล้วนค่ะ ข้าวไม่ค่อยทาน ตอนนี้ค่อนข้างเครียดค่ะ


    19-09-2016 22:34:33

    สวัสดีครับคุณแม่ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ต้องรอนาน จากที่คุณแม่เขียนมาว่าน้องเคยเป็นนอนโรงพยาบาลด้วยเรื่องปอดอักเสบภายหลังจากที่อาการดีขึ้นและมีความจำเป็นต้องกลับบ้านก่อนที่คุณหมอพิจารณา ภายหลังกลับมาไม่มีไข้แต่ยังมีอาการน้ำมูกและเสมหะอยู่นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับเช่น การอักเสบที่ยังคงเหลืออยู่และกำลังค่อยๆดีขึ้น การติดเชื้อครั้งใหม่ หรือสาเหตุจากภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งจะต้องใช้การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียดครับ ดังนั้นผมจึงแนะนำว่าควรพาน้องไปพบคุณหมอที่เคยรักษาดูแลในครั้งก่อนเพราะคุณหมอท่านนั้นจะทราบประวัติการเจ็บป่วยครั้งก่อนเป็นอย่างดีครับส่วนผลเลือดของน้องที่คุณแม่กังวลนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องซีด จำนวนเม็ดเลือดขาวที่ต่ำ หรือเกล็ดเลือดต่ำก็ตาม จะต้องพิจารณาค่าตัวเลขในผลเลือดที่แน่นอนครับว่าที่ต่ำนั้นมีค่าเท่าไหร่ หลังจากนั้นจะต้องซักประวัติ ตรวจร่างกายหรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุต่อไปครับ

  • Q อุบัติเหตุของน้อง
    24-08-2016 10:38:00

    พอดีวันก่อนสามีทำน้องหล่นค่ะ แต่ไม่แรงมาก ศีรษะกระแทกพื้นไม่มีแผล ไม่โน มีซึมเล็กน้อยเนื่องจากฉีดวัคซีนมาด้วยค่ะ รอดูอาการพ้น 24 ชั่วโมงแล้วยังปกติ ถือว่าไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยคะ


    24-08-2016 22:56:09

    สำหรับการบาดเจ็บที่ศีรษะในเด็กนั่นถ้ามีประวัติสลบหรือไม่รู้ตัวแนะนำพามาโรงพยาบาลทันทีเพื่อตรวจร่างกายและต้องนอนสังเกตอาการที่โรงพยาบาล 24-48 ชั่วโมงครับ แต่ถ้าไม่มีประวัติสลบ เด็กรู้ตัวดี เล่นได้ จะต้องสังเกตอาการอื่นร่วมด้วยอย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยอาการที่ต้องสังเกตเช่น อาเจียนพุ่ง ซึมลง ขยับแขนขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างลดลงหรือขยับไม่ได้ หากมีอาการดังกล่าวหรือคนดูแลไม่มีความมั่นในการสังเกตอาการที่บ้านแนะนำพาโรงพยาบาลครับ

  • Q วัคซีนอีสุกอีใสในเด็ก
    19-08-2016 11:52:36

    คุณหมอคะ ลูกสาวดิฉันอายุ 7 ขวบค่ะ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าให้ลูกฉีดวัคซีนอีสุกอีใสไปตอนสามขวบ คุณหมอบอกต้องฉีดเข็มสองตอนหกขวบ ช่วงปีที่แล้วไปอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้กลับมาไทยแล้ว ถ้าจะไปฉีดเข็มที่สองตอนนี้ยังทันไหมคะ หรือต้องเริ่มฉีดใหม่หมดเลยคะ แต่ละเข็มห่างกันกี่ปีคะ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามีภูมิแล้ว ขอบคุณคุณหมอนะคะ


    20-08-2016 13:04:03

    สำหรับวัคซีนอีสุกอีใสเข็มที่ 2 ถ้ามีเหตุจำเป็นหรือลืมมารับตามนัดสามารถมารับตามหลังได้ครับไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ครับ . ส่วนการตรวจภูมิคุ้มกันในปัจจุบันไม่ได้มีการแนะนำให้ตรวจครับผม และปัจจุบันหลังได้รับครบ 2 เข็มแล้วไม่ต้องมารับการกระตุ้นครับ

  • Q เด็กอายุ 3 เดือน ไม่ใส่ diaper แล้วไม่ยอมขับถ่าย ต้องทำอย่างไร
    18-08-2016 23:34:01

    พอไม่ใส่ก็จะไม่ยอมขับถ่ายต่อเนื่องถึง 3-4 วัน และมีอาการหงุดหงิด ไม่มีสมาธิ เข้าห้องน้ำทุก 10 นาที บอกว่าปวดปัสสาวะ แต่ก็ปัสสสะน้อย ควรแก้ไขอย่างไรคะ


    20-08-2016 13:37:22

    สวัสดีครับคุณแม่. ไม่แน่ใจว่าอายุของน้องอายุ 3 เดือนหรือ 3 ปีครับ . ถ้าอายุ 3 ปีเราสามารถฝึกการขับถ่ายให้ลูกได้ดังนี้ครับ 1. หากระโถนมาไว้ในห้องลูกเพื่อให้หยิบคว้าได้ง่ายเมื่อลูกอยากถ่ายและให้นั่งบนกระโถนโดยที่ยังไม่ต้องถอดเสื้อผ้าเพื่อให้คุ้นเคยกับกระโถนก่อน 2. เมื่อลูกเริ่มนั่งกระโถนอย่างเต็มใจแล้ว ค่อยๆอธิบายให้ฟังถึงวัตถุประสงค์ของการนั่งกระโถนแล้วลองให้นั่งโดยถอดผ้าอ้อมออกเน้นให้นั่งโดยวางเท้าอย่างมั่นคงบนพื้น 3. หัดให้นั่งกระโถนบ่อยๆและเปลี่ยนผ้าอ้อมเวลานั่งบนกระโถนโดยทิ้งุจจาระลงในกระโถนในขณะที่ลูกยังนั่งอยู่ เพื่อให้เข้าใจวัตถุประสงค์อย่างเป็นรูปธรรม 4. เมื่อลูกเข้าใจดีแล้ว ลูกอาจสนใจมากขึ้น ควรส่งเสริมให้ใช้กระโถนบ่อยๆ 5. หลังจากลูกสามารถใช้กระโถนได้สม่ำเสมอแล้วเปลี่ยนจากนุ่งผ้าอ้อมมาเป็นกางเกงที่อาจมีพลาสติกรอง

  • Q สุขภาพเด็กเล็ก
    17-08-2016 06:04:54

    ลูกชายอายุ 2ขวบค่ะ มีก้อนๆที่อวัยวะเพศ สังเกตว่าเวลาลูกฉี่มันจะพองขึ้นแต่พอกดก็ลงไปก็ยุบคะ ช่วงนี้เริ่มจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆเลยสงสัยว่า เป็นอะไรและจะเป็นอันตรายไหมคะ ขอบคุณค่ะ


    17-08-2016 23:33:16

    สวัสดีครับคุณแม่ Em จากที่คุณแม่พบว่ามีก้อนที่อวัยวะเพศสาเหตุเป็นได้หลายอย่างครับ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งว่าพบตรงไหนซึ่งคุณแม่อาจจะต้องระบุตำแหน่งครับเช่น องคชาต หนังหุ้มปลายองคชาต อัณฑะ ถุงอัณฑะ เป็นต้น เพราะแต่ละตำแหน่งสาเหตุย่อมต่างกันครับ . สำหรับการวินิจฉัยแต่ละสาเหตุนั้นแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายซึ่งจะได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ

  • Q breast feeding
    14-08-2016 18:48:55

    คุณแม่กำลังทานยาฆ่าเชื้อรักษาคออักเสบ ต้องหยุดให้นมลูกมั้ยคะ


    15-08-2016 08:15:29

    ยาฆ่าเชื้อมีทั้งชนิดที่ทานได้และทานไม่ได้ในหญิงให้นมบุตรครับ ดังนั้นก่อนที่จะทานยาชนิดต่างๆควรให้แพทย์หรือเภสัชกรเป็นคนพิจารณาครับ

  • Q โกนผมไฟ
    13-08-2016 13:32:12

    เด็กอายุ 1 เดือนกว่าจำเป็นต้องโกนผมไฟมั้ยคะ


    15-08-2016 08:12:48

    การโกนผมไฟหรือพิธีทำขวัญเดือนเป็นพิธีโบราณของคนไทยเราแต่ดั้งเดิมครับ ซึ่งคนส่วนใหญ่มีความเชื่อกันว่าผมของเด็กที่ติดมากับครรภ์มารดานั้นไม่ค่อยสะอาดนักจึงต้องโกนทิ้งเพื่อให้ผมขึ้นมาใหม่ แต่ถ้าจะโกนเมื่อแรกคลอดเลยก็ไม่สะดวกเพราะตอนนั้นต้องวุ่นอยู่กับการดูแลเด็กทารกที่เพิ่งเกิดออกมา และคุณแม่ก็เองเพิ่งคลอดลูกซึ่งยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก อีกสาเหตุหนึ่งคือเด็กที่คลอดใหม่ๆ กะโหลกศีรษะยังบอบบาง แม้ว่ามีอายุครบ 1 เดือนแล้วก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง การทำพิธีโกนผมไฟจึงควรระมัดระวังและให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญโกนผมให้ จะดีกว่าทำกันเองหรือบางคนจะบอกว่าเมื่อทารกคลอดจากครรภ์มารดาครบ 1 เดือนถือว่าพ้นเขตอันตราย กลายเป็น "ลูกคน" แน่นอน หากโกนผมไฟช้าเชื่อกันว่า จะทำให้เด็กดื้อ ดังนั้นเมื่อครบ 1 เดือนกับ 1 วันจึงจัดให้มีการทำขวัญตั้งชื่อเพื่อเป็นสิริมงคลแก่เด็ก ส่วนพิธีโกนผมไฟจะใหญ่โตมโหฬารอย่างไรนั้นก็สุดแต่กำลังทรัพย์ครับ ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่จะโกนผมไฟให้ลูกหรือไม่คงขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละครอบครัวครับ แต่ที่สำคัญคือต้องระวังว่าใบมีดโกนจะบาดผิวหนังบริเวณศีรษะ รวมถึงความสะอาดของใบมีดครับ

  • Q ทานนมแม่กับกล้วย สามมื้อ
    08-08-2016 11:50:57

    หลานชายผมอายุ 1ขวบ 6เดือน กินยากมาก ทานนมแม่กับกล้วย สามมื้อจะขาดสารอาหารมั้ยครับ?


    08-08-2016 19:26:03

    จากรายการอาหารที่ให้มาไม่เพียงพอกับความต้องการนะครับเพราะอาหารที่เหมาะกับวัยเด็กอายุ 12-23 เดือน ควรทานวันละ3มื้อ และต่อมื้อควรเป็นข้าว 6 ช้อนกินข้าวหรือ 1 ทัพพี + ผัดน้ำมันพืช 1 ช้อนชาหรือกินกับอาหารผัดหรือทอด แกงจืดหรือต้มจืด + อาหารที่มีโปรตีนประมาณ 3 ช้อนกินข้าว + ผักใบเขียว/เหลือง/ส้ม ประมาณ 3-4ช้อนกินข้าว . ส่วนปัญหาลูกทานทานยากต้องเข้าใจก่อนว่านี่คือพฤติกรรมในช่วงวัยหนึ่งของเด็กเพราะเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีจะสามารถเดินได้คล่อง ใช้มือเก่ง อยากเรียนรู้ อยากทำโน่นนี่ไปหมดดังนั้นความอยากทานอาหารย่อมลดลง ประกอบกับความต้องการสารอาหารในช่วงขวบปีที่สองนี้จะน้อยกว่าขวบปีแรกดูได้จากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในขวบปีที่สองที่น้อยกว่าขวบปีแรก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ปล่อยไปไม่จัดการนะครับ วิธีการจัดการลูกทานยากมีดังนี้ครับ 1.กำหนดให้ทานเป็นมื้อ วันละ 3 มื้อ กำหนดเวลาที่แน่นอน มีของว่างเสริม 1-2 มื้อควรเป็นผลไม้ 2. ห้ามทานอาหารหรือขนมจุกจิกระหว่างมื้อไม่ว่าจะเป็นขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน ไอศกรีม ลูกอม ฯลฯ หากจะให้ ควรให้หลังอาหารถ้าลูกกินได้เหมาะสม 3. ไม่ให้นมมากเกินไปเพราะเมื่อเด็กอายุเกิน 1 ปี ควรกินข้าวเป็นอาหารหลัก วันละ 3 มื้อ ส่วนนมจะเป็นอาหารเสริมเท่านั้น จึงต้องลดปริมาณลงเหลือวันละ 3 - 4 มื้อ และควรให้นมหลังอาหารเท่านั้น 4. ฝึกกินอาหารให้เป็นเวลา สม่ำเสมอ และควรกินพร้อม ๆ กันทั้งครอบครัว 5. ขณะมื้ออาหารไม่ควรดูทีวีหรือเล่นของเล่นไปด้วย เพราจะทำให้เด็กไม่สนใจเรื่องกิน 6. ให้นั่งกินอาหารบนเก้าอี้จนเสร็จจึงจะให้ลง ไม่เดินตามป้อน 7. บรรยากาศขณะมื้ออาหารให้ผ่อนคลาย พูดคุยกันเรื่องอาหารหรือเรื่องเบาๆ ไม่ควรใช้เป็นเวลาที่จะมาต่อว่า ดุด่าว่ากล่าวกัน 8. เปิดโอกาสให้เด็กช่วยเหลือตัวเองเรื่องการกินให้มากที่สุดตามวัยโดยค่อย ๆ ลดการให้ความช่วยเหลือลงตามลำดับในเด็กต่ำกว่า 3 ขวบให้เด็กมีโอกาสถือหรือหยิบอาหารเข้าปากด้วยตัวเองบ้าง แม้จะเลอะเทอะไปบ้างก็ต้องยอม 9. สังเกตชนิดและลักษณะอาหารที่เด็กชอบ ปรุงรสชาติให้ถูกปากเพราะเด็กสามารถแยกแยะรสชาติได้ตั้งแต่อายุไม่กี่สัปดาห์ 10. กำหนดระยะเวลามื้ออาหารประมาณ 30 - 45 นาที เมื่อถึงเวลาที่กำหนดให้เก็บจานแม้ว่าจะยังกินไม่หมดหรือกินได้น้อยก็ตามโดยไม่ต้องแสดงความวิตกกังวลหรือโกรธ แต่ให้งดของหวาน ขนม หรืออาหารว่างต่างๆ ทั้งหมดก่อนจะถึงมื้อถัดไปเพื่อให้เด็กเกิดความหิว ซึ่งจะกระตุ้นให้เจริญอาหารและรับผิดชอบเรื่องการกินว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลได้ดีขึ้น

    user upload image
Loading ...
Success