1. ปัญหาดังกล่าว คงไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง คงต้องมองเป็น " ปัญหาของระบบครอบครัว "
1.1 คุณแม่
- ที่ต้องเสียสละออกจากงานมาดูลูก โดยทั่วไปอาจมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า เลยทุ่มเทพลังทั้งหมดไปที่การดูแลลูก ดูแลบ้าน ผูกคุณค่าของตัวเองทั้งหมดไว้กับลูก เมื่อลูกทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ก็จะมีอารมณ์ได้ง่าย
- ร่วมกับการที่ สามี ไม่ให้ความเข้าใจ เห็นใจ หรือแม้กระทั่งการให้กำลังใจ ก็ยิ่งทำให้ เกิดอารมณ์ เบื่อ ท้อ หงุดหงิด ได้มากขึ้น
1.2 คุณพ่อ
- อาจมีความคิดว่า ตัวเองทำงานนอกบ้านแล้ว และอยากให้สิทธิภายในบ้านเป็นของคุณแม่คนเดียว
1.3 ลูกชาย
- ด้วยความรักแม่ และคงกลัวแม่เสียใจ ในกรณีที่ตัวเค้าประเมินแล้วว่า ถ้าบอกอะไรออกไปจะทำให้แม่โมโห เค้าคงเลือกที่จะไม่บอกความจริง
ตามทฤษฎีของหน้าที่ครอบครัว (Mc Master Model) หน้าที่ของครอบครัว ที่สำคัญคือ
1. การสื่อสาร
- ในกรณีนี้ จะเห็นว่าในครอบครัวไม่มีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา อย่างมีประสิทธิภาพ การสื่อสารโดยใช้ I message เช่น แม่อยากให้พ่อมาช่วยคุยกับลูกให้หน่อย ช่วงนี้แม่เหนื่อยมากเลย , แม่รู้ว่าที่หนูไม่พูด ความจริงคงเพราะหนูกลัว แต่แม่จะดีใจมากถ้าลูกมาบอกความจริงกับแม่
2. การตอบสนองทางอารมณ์
- ตัวคุณแม่เอง คงอยากให้คุณพ่อหรือลูก มาเข้าใจ ให้กำลังใจ ว่าตัวเองเหนื่อย ตรงนี้ถ้าคุณพ่อเข้าใจ และช่วยเหลือ คงทำให้ตัวคุณเองมีแรงในการจัดการกับอารมณ์ได้มากขึ้น
- ตัวลูกชายเองก็เช่นกัน ถ้าเวลาที่เค้ามาเล่าเรื่องที่ไม่ดี ให้ทราบตามความจริง แล้ว มีการตอบสนองทาง อารมณ์ที่เหมาะสม ลูกก็จะกล้าเล่าความจริงมากขึ้น เช่น แม่เข้าใจว่าหนูคงไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องนั้น ไหนลองเล่าให้แม่ฟังสิว่าเกิดอะไรขึ้น
3. การเข้าไปเกี่ยวข้องกับอีกคน
- แม้ว่าจะเป็นครอบครัว แต่สมาชิกแต่ละคนก็เหมือนเป็น คน คนหนึ่งเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะวัยรุ่น เป็นวัย ที่ต้องการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบการควบคุม อยากเลือกอะไรด้วยตัวเอง โดยพ่อแม่ เป็นเพียงแค่คนที่ ช่วยออกความเห็น ให้คำปรึกษา มาร่วมกันมองหาข้อดีข้อเสีย ถ้าพ่อแม่ยังควบคุม หรือจัดแจงแทนเค้า เยอะเกินไป ก็อาจทำให้เค้าอึดอัดได้ และเลือกที่จะโกหกแทนได้
- หรือแม้กระทั่งการที่สมาชิกคนใดคนหนึ่ง ห่างเหิน ออกไป เช่นคุณพ่อที่ไม่เข้ามาช่วยปัญหาในครอบครัว ก็มีผลกระทบกับสมาชิกที่เหลือในครอบครัว
4. การควบคุมพฤติกรรม หรือ กฏ ในบ้าน
- ในบ้านควรมีกฎ ให้ชัดเจน ว่าอะไรที่ทำได้ อะไรที่สมาชิกในบ้านห้ามทำ แล้วมีกติกา ในการลงโทษ ที่ ชัดเจน เช่น ชุดชั้นใน เป็นงานส่วนตัวที่ต้องรับผิดชอบเอง
5. การแก้ปัญหาร่วมกัน
- ปัญหาที่ว่าดังกล่าว ไม่ใช่เป็นปัญหาของคนใดคน หนึ่ง อาจต้องหาเวลา ที่อารมณ์ดีๆ มานั่งคุยกัน ว่า แต่ละคนจะช่วยแก้ปัญหาของครอบครัว ที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้อย่างไรบ้าง
2. และคงต้องช่วยหาสาเหตุ ปัญหาการเรียนที่แย่ลงของเด็ก ด้วย เช่น ภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า การถูกเพื่อนรังแก ในโรงเรียน จนทำให้เด็กไม่กล้าบอกความจริง หรือแม้กระทั่งภาวะอารมณ์ของคุณเองอาจเป็นภาวะเครียด หรือจนถึงภาวะซึมเศร้าหรือไม่ ที่ทำให้การคุมอารมณ์ทำได้ยากมากขึ้นแม้ว่าจะพยายามแล้ว
ในเบื้องต้นหมอแนะนำว่า น่าจะหาช่วงเวลาดีๆ คุยกับสามีเรื่องที่คุณอยากให้เค้าเข้ามาช่วยดูแลปัญหาในครอบครัว คุยกับลูกถึงปัญหา ความรู้สึกของเค้า ทั้งนี้หมอแนะนำว่าอาจพาลูกชายไปขอคำปรึกษากับจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นอีกครั้งเพื่อประเมินถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยละเอียดอีกครั้งค่ะ
สุดท้ายหมอเห็นถึงความรัก ความเอาใจใส่ ที่คุณมีให้ลูก แต่คุณเองก็คงเหนื่อยกับการที่เอาคุณค่าของตัวเองไปผูกกับความสำเร็จของลูก โดยที่ไม่มีใครเห็นคุณค่าของสิ่งที่ทุ่มเทไป หมอว่าอาจถึงเวลาที่คุณจะชื่นชมตัวเอง ในส่ิงที่ทำ แม้ว่าอาจไม่ได้ตามผลที่คาดหวังไว้นะคะ