พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii
Ryan Gig
คุณแม่ของผมเป็นเบาหวาน ใช้ยาฉีดอินซูลินอยู่ ตัดข้อเท้าไปแล้วข้างหนึ่ง ที่ตาหมอก็ให้ไปเลเซอร์หลายครั้ง ตอนนี้ที่ส้นเท้าอีกข้างเริ่มมีแผลขึ้นมาเอง ไม่ได้ไปโดนอะไรนะครับ ไปหาหมอ หมอให้แต่ทำแผล ผมกลัวมากไม่อยากให้แม่ต้องถูกตัดขาอีก จะทำยังไงดีครับ
พญ.ฐิตินันท์
แผลที่เท้า และ ตาที่ต้องทำเลเซอร์ เป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดได้จากโรคเบาหวาน การรักษาระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด รวมถึงควบคุมความดันโลหิต สามารถชะลอการเกิดโรคแทรกต่างๆได้ ดังนี้ - ควบคุมน้ำตาลก่อนอาหาร น้อยกว่า 110 มก/ดล. น้ำตาลหลังอาหาร น้อยกว่า 180 มก/ดล. น้ำตาลสะสม (HbA1C) น้อยกว่า 6.5-7% - ควบคุมความดันโลหิต น้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท - ควบคุมไขมันเลว LDL น้อยกว่า 100 มก/ดล. อย่างไรก็ดี หากตอนนี้มีแผลที่เท้าแล้ว - ควรให้แพทย์ประเมิน ว่าเป็นแผลจากความเสื่อมของเส้นเลือดหรือเส้นประสาท รวมถึงประเมินขนาด ความลึก ความรุนแรงของแผลรวมถึงประเมินการติดเชื้อว่าจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือไม่ -ทำแผลทุกวัน วันละ1-2 ครั้ง ด้วยน้ำเกลือที่สะอาด (ไม่ใช้แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีรุนแรง ที่ทำลายเนื้อเยื่อ) ห้ามให้แผลโดนน้ำ ห้ามขัดถู กดหรือลงน้ำหนักที่แผล - ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่สะอาด ใช้พลาสเตอร์ชนิดนิ่มปิดทับเบาๆ - ห้ามโปะยาอื่นๆหรือสมุนไพรลงบนแผล เนื่องจากทำให้ติดเชื้อลุกลามมากขึ้นได้ - ไม่สูบบุหรี่ เนื่องจากทำให้หลอดเลือดตีบ แผลหายช้ายิ่งขึ้น
Read more comments...
นาย
รบกวนขอคำแนะนำคุณหมอเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและอาหาร ของคนไข้ leukemia ที่รับยาเคมีบำบัดครับ
ผู้ป่วยมะเร็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับยาเคมีบำบัด ควรรับประทานอาหารที่มีพลังงานเพียงพอ สะอาด ถูกสุขลักษณะ ปรุงอาหารให้ร้อน (เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ) หลากหลายชนิด ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีแรงต่อสู้กับโรคและยาเคมีบำบัดที่มีฤทธิ์แรง - รับประทานอาหารอ่อนๆ เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย โดยเน้นประเภทต้มและนึ่งให้สุก เช่น ข้าวต้ม ขนมปัง เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ มันฝรั่งบด นมปั่น ผักต้มสุก ซุป โยเกิร์ต - เลี่ยงของมัน ของทอด อาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง - หากผู้ป่วยมีอาหารคลื่นไส้อาเจียนหรือเจ็บปาก เนื่องจากผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด แนะนำให้รับประทานน้อยๆ แต่บ่อยๆครั้ง เคี้ยวอาหารช้าๆ - ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน - หากเบื่ออาหาร ให้ดื่มนม หรืออาหารเสริม - ไม่แนะนำให้รับประทานยาสมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากอาจมีผลเสียต่อการทำงานของตับหรือไต - ล้างมือและภาชนะให้สะอาด เพื่อป้องกันเชื้อโรค
Pichet
ถ้าคุณพ่อถูกวินิจฉัยจากหมอว่าเป็นโรคเบาหวานจากค่าน้ำตาลที่ตรวจออกมา แต่ตัวคุณพ่อไม่ยอมรับว่าเป็น และไม่ยอมควบคุมอาหารการกินเท่าไหร่ พอจะมีแนวทางแนะนำรึปล่าวครับว่าจะดูแลเค้าอย่างไร แล้วก้อตรวจวัดอะไรเองได้บ้าง
ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เมื่อเราได้รับข่าวที่เราไม่ชอบใจ ไม่พอใจ โดยทั่วไปมักปฏิเสธและต่อต้าน การจะให้ผู้ป่วยร่วมมือในการรักษา คงต้องร่วมมือกันระหว่างแพทย์และญาติ 1 ช่วยกันบอกถึงข้อดีของการรักษาและผลเสียของการไม่รักษา (หากไม่รักษา จะเกิดน้ำตาลสูงวิกฤติ ช็อคได้ หากปล่อยให้น้ำตาลสูงเรื้อรัง จะเกิดโรคแทรก เช่น ตาบอด ไตวาย) 2 แนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเลือกอาหารที่ถูก (ไม่ใช่งด หรือ อดอาหาร) แนะนำการออกกำลัง 3 สามารถเจาะน้ำตาลจากปลายนิ้ว ด้วยเครื่องเจาะน้ำตาลได้ เมื่อผู้ป่วยพบว่าน้ำตาลสูง อาจเป็นแรงผลักดันให้รู้สึกอยากคุมอาหารและรักษาเบาหวานมากขึ้น \\ร่วมมือกันรักษาเบาหวาน เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน ให้คนที่เรารักกันนะคะ^^
Chanapon
ผมตรวจเจอน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ มีสมุนไพรอะไรช่วยบ้างไหมครับ
การใช้สมุนไพรรักษาเบาหวาน ยังไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ชัดเจน ว่าทำให้น้ำตาลลดลง หรือรักษาเบาหวานได้ หากแต่พบผู้ใช้สมุนไพร แล้วเกิดปัญหาตับวาย ไตเสื่อม และมีบางรายเสียชีวิตจากสมุนไพรต่างๆ ดังนั้น ไม่แนะนำให้ใช้ยาสมุนไพรมารักษาเบาหวาน หากมีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ ได้รับการตรวจยืนยันแล้วว่าเป็นเบาหวานจริง ควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดน้ำหนัก 3-5%จากน้ำหนักเดิม (หากอ้วน) ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เลือกรับประทานอาหารที่ไม่หวาน เนื่องจากมีข้อมูลการศึกษาจากประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างชัดเจน ว่าสามารถทำให้ควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้น หากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควรใช้ยาเม็ดลดระดับน้ำตาล หรือยาฉีดอินซูลิน โดยแพทย์เป็นผู้พิจารณา เพื่อให้ควบคุมเบาหวานได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งสามารถลดภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตาบอดจากเบาหวานขึ้นตา ไตวาย แผลที่เท้า รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ/สมอง เป็นต้น
สำเร็จ