พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii

  • Q สอบถามเกี่ยวกับเรื่องตับ
    04-11-2016 09:04:13

    สวัสดีค่ะ ขอสอบถามปัจจุบันอายุ 36 เป็นโรคไวรัสตับซี สายพันธ์ 1a 22/2/2015 ตรวจ HCV RNA : 3,160,000 iu/ml 22/2/2015 SGOT = 13 SGPT=15 (ท้อง 2 เดือน) 11/10/2015 SGOT=28 SGPT=44 (ตรวจหลังคลอดลูก 2 เดือน 31/3/2016 SGOT=24 SGPT=30 (ตรวจหลังคลอดลูก 7 เดือน) 31/3/2016 AFP (ALPHA FETOPROTEIN) 15.04 High 0-9 26/10/2016 SGOT=27 SGPT=51 1.ต้องการสอบถามว่า ตอนนี้ค่าตับสูงขึ้น ตอนนี้มีอาการปวดหัวไมเกรนทุกวัน ถ้าทาน นูโรเฟนทุกวันจะทำให้ตับแย่ลงหรือเปล่าคะ ตอนนี้ทาน fishoil และ วิตามินซี 1000 mg และเอสเซ็นเชียล 2 เม็ด เช้าเย็น ทุกวันทานได้ไหมคะ 2.ค่าตับที่สูงขึ้นมันจะลดลงได้ไหมคะ


    04-11-2016 13:30:45

    ไวรัสตับซี หากปริมาณไวรัสมาก ทำให้ค่าการทำงานของตับผิดปกติได้ ( เพิ่มSGPT ) รักษาโดยการใช้ยาลดไวรัสตับ แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านทางเดินอาหารและตับ 

    ส่วนยาวิตามิน fishoil และ วิตามินซี 1000 mg และเอสเซ็นเชียล  ไม่ได้มีส่วนช่วยลดการอักเสลของตับ หรือลดปริมาณไวรัสค่ะ

    ส่วนนูโรเฟน เป็น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ไม่ได้ทำให้ตับแย่ลง แต่ทำให้ บวมน้ำ ความดันสูงขึ้น และ ไตเสื่อมได้ค่ะ ไม่แนะนำให้ทานติดต่อกันเป็นเวลานานค่ะ

  • Q นิ่วในไต
    02-11-2016 15:31:07

    สวัสดีครับ ผมมีคำถามเมื่อประมาณต้นปี 2016 ที่ผ่าน มาเกิดปวดท้องมาก ผมจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล ใกล้บ้าน ปรากฏว่าเจอนิวในไต เม็ดประมาณ 3 มิล ปวดมาประมาณ 6 เดือนพยายามออกกำลังกาย เพื่อให้เกิดการสั่นสะเทือนเพื่อให้นิ่วเคลื่อนตัว หลุดลงมาในกระเพาะฉี่เอง พร้อมทั้งทานยาขยาย ท่อไตเพื่อให้ท่อไตขยายและนิ่วไหลลงมา แต่ ปรากฏว่า 6 เดือนไม่ได้ผลอะไร คิดว่าจะผ่า แต่จู่ๆ ก็หายปวดไปเฉยๆ ตอนนี้ยังปกติดี แสดงว่านิ่วนี้หลุดไปแล้วหรือยังครับ หรือควรไปตรวจให้แน่ใจอีกครั้งครับ แล้วท่อไตที่โดนนิ่วตกกระทบระหว่าง ที่ผมปวดท้องจะเป็นแผลอะไรรึเปล่าครับ ขอบคุณครับ


    02-11-2016 19:55:05

    ความจริงแล้ว นิ่ว 3 มิลลิเมตร มันอาจหลุดลงมาในกระเพาะปัสสาวะ และอาจออกมากับปัสสาวะได้เองค่ะอาการหายปวด อาจบอกได้ว่านิ่วหลุดออกไปแล้ว หรือ นิ่วยังอยู่ แต่ไม่ก่อการอักเสบ จึงไม่ปวดแนะนำให้ไปตรวจยืนยันอีกครั้งให้แน่ใจ ว่ายังมีนิ่วอยู่หรือไม่ค่ะ 

  • Q ขอคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความดันโลหิตค่ะ
    01-11-2016 15:57:44

    สวัสดีค่ะ ดิฉันหนัก 112กิโลกรัม สูง 170ซม. เคยวัดความดันโลหิต ค่าที่วัดได้ประมาณ 158/92 อยากลดความดันโลหิตโดยไม่ต้องกินยา ควรทำอย่างไรคะ


    01-11-2016 16:51:55

    การลดความดันโลหิต

    - ไม่ใช้ยา: 

    1. ลดน้ำหนักประมาณ5-10% จากนน. เดิม จะลดความดันได้ประมาณ 5 มม.ปรอท

    2. ออกกำลังสม่ำเสมอ แบบแอโรบิค เช่น เต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ 

    3. รับประทานผัก ( DASHdiet )

    4. งดหรือลดอาหารเค็ม ไม่เติมเครื่องปรุงในอาหาร เช่น ซีอิ้ว ซอส น้ำปลา เต้าเจี้ยว

    - ยาลดความดัน มีหลายกลุ่ม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อเนื่อง

    # หากลองลดความดันโดยวิธีที่ไม่ใช้ยา แล้วยังคุมความดันไม่ได้ ควรรับประทานยา เพื่อควบคุมให้ ความดัน < 130/80 มม.ปรอท จะได้ลดโรคแทรกทางหัวใจ ไตและสมองในอนาคตค่ะ

    #หมายเหตุ หาก อายุ < 35 ปี แนะนำหาสาเหตุของความดันสูงด้วยค่ะ เช่น โรคไทรอยด์ ไต ต่อมหมวกไต

  • Q น้ำหนักเกิน และ ฮาชิโมโตไทรอยด์
    31-10-2016 22:26:24

    ดิฉันเป็นฮาชิโมโตไทรอยด์มานานกว่า 25 ปี ทานยา eltroxin วันละ 1 เม็ด ทานบ้างไม่ทานบ้าง รักษาอยู่ที่รพ.รามา แต่นานๆไปที ประสบปัญหาน้ำหนักเกิน ตอนนี้น้ำหนัก 80 กก ทั้งที่ตอนสาวๆเป็นคนผอม น้ำหนัก 50 กก ตั้งแต่เริ่มเป็นไทรอยด์ น้ำหนักขึ้นมาโดยตลอด ยิ่งหลังคลอดบุตร 2 คน มีภาวะเสี่ยงเบาหวาน อยากทราบควรปฏิบัติตัวอย่างไร และถ้าอยากลดน้ำหนักควรทำอย่างไร ในบั้นปลายแล้วโรคนี้เป็นผลทำให้เป็นอย่างไรบ้าง ขอขอบคุณสำหรับคุณหมอที่มีจิตเป็นกุศลกรุณาเปิดช่องทางดีๆอย่างนี้ให้คนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ


    01-11-2016 16:44:59

    ฮาชิโมโต ไทรอยด์ เป็นโรคที่เกิดจากมีแอนติบอดี้ทำลายต่อมไทรอยด์ ทำให้เกิดไทรอยด์ทำงานต่ำ รักษาด้วยการรับประทานฮอร์โมนไทรอยด์ เพื่อคุมให้ผลเลือดไทรอยด์ปกติ หากไม่รับประทาน อาจทำให้ไทรอยด์ต่ำ (hypothyroid) ส่งผลให้ น้ำหนักขึ้น บวม ท้องผูก ง่วงนอน ขี้หนาว เป็นต้นยาฮอรโมนไทรอยด์ รับประทานวันละเม็ดก่อนอาหารเช้า จากอาการที่เล่ามาควรรับประทานยาให้สม่ำเสมอและเช็คเลือดเป็นระยะ 1-2 ครั้งต่อปีส่วนอ้วน น้ำหนักขึ้น และเสี่ยงเบาหวานอาจเป็นจากเหตุอื่นได้ เช่น กรรมพันธ์ุ รับประทานอาหารมากกว่าพลังงานที่ใช้ ไม่ได้ออกกำลัง แนะนำให้เลือกอาหารที่รับประทาน เน้นผักผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะได้ไม่เป็นเบาหวาน ไขมัน ความดัน หรือที่เรียกว่า NCD ในอนาคตค่ะ #ป้องกันดีกว่ารักษา ;)

  • Q ปัสสาวะบ่อยมาก
    29-10-2016 21:51:53

    ก่อนนอนจะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อย แทบจะทุกครั้งที่ละครโฆษณา ประมาณ 5-7ครั้งตั้งแต่ ประมาณ 2 ทุ่ม ถึงห้าทุ่ม เคยไปเอ็กเซรย์ ไม่ผิดปกติ หมอบอกว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทานยาและฉีดยาแล้ว ก้อไม่ดีขึ้นควรทำไงดีคะ


    31-10-2016 02:00:58

    ปัสสาวะบ่อย ต้องแยกก่อนค่ะ ว่า บ่อยที่จำนวนครั้ง หรือ ปริมาณมากด้วย

    /หากปัสสาวะบ่อย แต่ปริมาณน้อย ปัสสาวะไม่สุด ปวดเวลาปัสสาวะ ต้องเบ่งเวลาปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากโต หรือ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 

    หากปัสสาวะบ่อย และปริมาณมาก ควรตวงปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ว่าออกมากเกิน 3 ลิตรหรือไม่ หากไม่ต้องลุกมาปัสสาวะกลางคืน ไม่กระหายน้ำมาก ปัสสาวะไม่เกิน 3 ลิตรต่อวัน --> ถือว่าปกติค่ะ

    หากปัสสาวะมากเกิน 3 ลิตร ต่อวัน ควรหาสาเหตุ เช่น โรคต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ หรือโรคไตเสื่อม ควรทำการตรวจเพิ่มเติมโดยการเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อส่งหาเกลือแร่ต่างๆ ออสโมลาริตี้ และทำการทดสอบโดยการอดน้ำ (water deprivation test) และเจาะเลือดเพื่อแยกว่าสาเหตุเกิดจากสมองหรือไตกันแน่

    จากอาการที่คุณเล่ามา ปัสสาวะบ่อยแต่ตอนช่วงละคร อยากให้ลองสังเกต ว่ารับประทานน้ำมาก ในช่วงบ่าย เย็น หรือค่ำๆหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำที่มีคาเฟอีน (ชา กาแฟ) หรือแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น

    ปัสสาวะออกมากที่ผิดปกติ คือ มากกว่า 3 ลิตรต่อวัน ถ้าบ่อยแต่ช่วงค่ำ โดยไม่ลุกตื่นกลางดึกมาปัสสาวะ อาจยังไม่มีความผิดปกติค่ะ

    ถ้าไม่มั่นใจ ลองไปพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะ ว่ามีเซลล์อักเสบ ความถ่วงจำเพาะต่ำ หรือมีน้ำตาลรั่วในปัสสาวะหรือไม่ค่ะ

  • Q ไม่รู้สึกปวดปัสวะ
    29-10-2016 07:41:53

    ไม่รู้สึกว่าปวดฉี่คะระยะเวลาอาการเป็นตั้งแต่หลังคลอดลูก(คลอดธรรมชาติ)เป็น10เดือนแล้วคะจะใช้วิธีกำหนดเวลาคะว่าต้องฉี่เวลาไหนเช่น09.00/12.00/15.00(เวลาอยู่ที่ทำงาน)แต่ถ้าอยู่บ้านก็จะลืมมัวแต่ทำงานบ้านคะเวลาฉี่ก็จะเยอะคะบางครั้งก็จะปวดหลังมากคะเป็นปัสวะอักเสบไหมคะถ้าปวดหลังก็จะพยายามดื่มน้ำมากๆและจับเวลาเข้าห้องฉี่คะมีวิธีรักษามั้ยคะขอบคุณคะ


    29-10-2016 20:57:08

    อาจต้องไปเช็คและปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ ตรวจดูการทำงานกระเพาะปัสสาวะและหูรูด (เรียก urodynamic test) โดยเป็นการวัดแรงดัน ปริมาตรและการไหลของปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะ การวิเคราะห์โดยใช้รังสีแสดงภาพกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ด้วยภาพเอกซเรย์ ส่วนการติดเชื้อ คิดว่าอาการที่เล่ามายังไม่เหมือน การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจะมีอาการปวดเวลาปัสสาวะ หน่วงช่องคลอด ปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด วินิจฉัยโดยเอาปัสสาวะไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ หาเชื้อโรคและเซลล์อักเสบ//ลองไปพบแพทย์ที่รพ. นะคะ ;)

  • Q การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
    28-10-2016 15:49:38

    หากเคยตรวจเลือดและพบว่ามีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอับเสบบี เมื่อ 3 ปีก่อน ภูมิต้านทานดังกล่าวจะสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตหรือไม่ หากไม่จำเป็นต้องมีการฉีดกระตุ้นทุกๆกี่ปีค่ะ


    28-10-2016 20:54:30

    หากฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีครบ3เข็มแล้ว รวมทั้งตรวจภูมิคุ้มกันเจอว่ามีภูมิ ไม่จำเป็นต้องฉีดกระตุ้นอีกค่ะ สามารถป้องกันได้ตลอดไป

  • Q หัวโนไม่ทราบสาเหตุ
    26-10-2016 09:53:24

    ปรึกษาคุณหมอค่ะ ดิฉันอายุ 29 ปี มีโรคประจำตัวคือไมเกรน (ส่วนใหญ่จะปวดเป็นครั้งคราว แต่ไม่บ่อย) สัปดาห์นี้ไม่มีอาการปวดหัวแต่อย่างใดค่ะ เช้านี้ตื่นมาหวีผม แล้วรู้สึกว่าหัวโน เลยเอามือคลึงดู หัวโนบริเวณเหนือกกหูขึ้นไปซ้ายประมาณ 2 นิ้วค่ะ ไม่มีอาการปวดศรีษะแต่อย่างใดค่ะ แค่เจ็บตรงที่มันโนขึ้นมา ดิฉันมั่นใจว่าศรีษะไม่ได้กระแทกอะไรมาก่อนหน้านี้ ไม่ทราบว่าแบบนี้อันตรายหรือไม่คะ ขอบคุณค่ะ


    26-10-2016 18:50:10

    1 หัวโนไม่ทราบสาเหตุ เป็นไปไม่ได้ครับ2 ที่มันบวมปูดขึ้นมา ถ้าเจ็บๆด้วยเป็นไปได้ครับว่าเป็นใต้ผิวหนังอักเสบ เช่น สิว หรือต่อมไขมันครับ แต่ถ้าไม่เจ็บเลย แค่บวมเฉยๆ คิดว่า คิดไปเองมากกว่าครับ3 แต่ไม่ต้องกังวลครับ ไม่เกี่ยวกับไมเกรน อีกอย่าง สมองกับผิวหนังมีกะโหลกกั้นอยู่ครับ สมมุติต่อให้สมองบวมยังไงก็ไม่ปูดออกมาหรอกครับ  

  • Q อาการจ้ำเขียวตามแขนขา
    25-10-2016 14:34:45

    สวัสดีค่ะคุณหมอ รบกวนขอคำแนะนำและปรึกษาค่ะ ปัจจุบันอายุ 36-37 ปี มักมีอาการจ้ำเขียวกดเจ็บนิดๆ ขึ้นตามแขนและขาสังเกตุดูมักเป็นก่อนมีประจำเดือน เป็นจ้ำๆ แต่ละรอยขนาดไม่ใหญ่นัก บางเดือนขึ้นเยอะบางเดือนก็มีแค่ 4-5 จุด กระจายทั่วไป จะเป็นแบบนี้แทบทุกครั้ง จำได้ว่าเป็นมาตั้งแต่อายุ 18 ค่ะแต่เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง เคยตรวจตอนอายุประมาณ 19 ปี ผลปกติแต่จำไม่ได้แล้วว่าคุณหมอตรวจอะไรให้ พออายุเริ่มมากขึ้น พบว่าเป็นทุกเดือนค่ะ เป็นอาการปกติไหมคะ ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจรึเปล่าคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ


    25-10-2016 21:50:22

    อาการจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกตามผิวหนัง เกิดจากเลือดรั่วออกจากหลอดเลือด มีหลายสาเหตุ ได้แก่

    1. เกิดเอง เช่น คนสูงอายุ

    2. โรคการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ 

    3. โรคอื่นๆ เช่น ลักปิดลักเปิด (ขาดวิตามินซี) โรคตับเรื้อรัง ไตวาย

    อย่างไรก็ดี จากอาการที่เล่ามา อาการเป็นมานานเป็นปี สัมพันธ์กับช่วงเวลาที่มีประจำเดือน จ้ำเลือดหายได้เอง รวมถึงไม่มีเลือดออกผิดปกติที่อื่น เช่นเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดา อุจจาระปัสสาวะเป็นเลือด หรือประจำเดือนออกมากผิดปกติ ดังนั้น น่าจะเป็นอาการที่ไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องรักษา 

    //แนะนำปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจเลือดดูการแข็งตัวของเลือด เช่น CBC PT PTT ในการยืนยันความมั่นใจอีกครั้งค่ะ ว่าปกติจริงๆ

  • Q ไทรอยเป็นพิษ
    23-10-2016 15:33:37

    ไทรอยด์เป็นพิษ ได้รับการกลืนไอโอดีน131 เมื่อสองปีที่แล้ว อาการดีคะหลังจากนั้นก็หยุดยามาเรื่อย,ถ้ามีอาการจึงเอาตัวอย่างไปซื้อ,กินยาPTUและยาลดความดันอยู่คะ อาการตอนนี้ เหนื่อยมาก,กล้ามเนื้อแขนขาเหมือนไม่มีแรง,ตะคริวกินบ่อยมาก,หัวใจเต้นเร็วแทบจะหลุดออกมาข้างนอก,พูดยังเหนื่อย กินยาptu หลังอาหารเช้า-เย็น@3เม็ด,ความดันเช้า-เย็น@1เม็ดถ้าทำการรักษาแบบไม่ใช้สิทธิ์วิธีรักษาเหมือนกันมั๊ยคะ ตอนนี้ท้อหมดกำลังใจและคะรักษาไม่หายขาดสักที,นน.แค่40กก.สูง165ซม.


    23-10-2016 17:17:10

    อาการที่เล่ามา หมอยังไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นอาการกลับเป็นซ้ำของไทรอยด์เป็นพิษ เพราะมีหัวใจเต้นเร็ว อ่อนแรงแขนขา เหนื่อยง่าย ควรยืนยันด้วยการเจาะเลือดดูการทำงานของไทรอยด์ หมอไม่แนะนำให้ซื้อยากินเองนะคะ เพราะการรักษาไทรอยด์ ควรดูจากผลเลือด ปรับขนาดยาที่รักษาตามค่าการทำงานของไทรอยด์ การกินยาเองโดยไม่พบแพทย์ มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยาได้มากๆๆๆๆ เช่น ตับอักเสบ เม็ดเลือดขาวต่ำ หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง เป็นต้นอย่างไรก็ดี โรคไทรอยด์เป็นพิษ หากรักษาครบคอร์สครั้งแรก ครบ 1.5-2 ปีแล้ว หรือได้รับการกลืนแร่แล้วก็ตาม อาจมีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีก ได้ 10-30% ควรรักษาขั้นเด็ดขาดโดยการกลืนแร่ซ้ำอีกครั้งค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนของหัวใจหรือลิ่มเลือดอุดตันในสมอง

Loading ...
Success