พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii
Guest
เคยมีอาการคุชชิ่งเมื่ออายุ18ปีค่ะ หลังจากหยุดรับยาสเตียรอยด์ ปัจจุบันอายุ28 แต่ประจำเดือนมา2-3วัน และมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน เส้นผมจะเล็ก ขาดง่ายมาก มีหนวดบางๆ กับบนใบหน้าเล็กน้อยค่ะ ไม่ทราบว่านี่ยังคงเป็นอาการคุชชิ่งรึเปล่าคะ ตอนมีอาการ10ปีก่อน ผมบาง ร่วงหนักมาก หน้ากลม มีหนอก ปัจจุบันรูปร่างปกติค่ะ ขอบคุณค่ะ
พญ.ฐิตินันท์
อาการคุชชิ่ง มักอ้วนขึ้น ประจำเดือนมาน้อยหรือขาดหายไป รอยช้ำตามตัวง่าย หนวด ขนดก สิว เป็นต้น
คุชชิ่งเกิดจากเนื้องอกต่อมใต้สมอง หรือต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนมากไป ทำให้คอร์ติซอลเกิน ไม่ทราบว่าคุชชิ่งที่เป็น เป็นเนื้องอกของต่อมหมวกไต หรือต่อมใต้สมองคะ
หากได้รับการผ่าตัดแล้ว ส่วนมาก ฮอร์โมนมักจะกลับมาปกติ อย่างไรก้ดี
หากเป็นที่ต่อมใต้สมอง ควรประเมินฮอร์โมนอื่นด้วย เช่น ไทรอยด์ ฮอร์โมนเพศ โดยการเจาะเลือดดู (FT4 TSH estradiol FSH LH prolactin IGF1)
หากสงสัย ว่าคุชชิ่งกลับมาใหม่ คงต้องประเมินฮอร์โมนคอร์ติซอลจากปัสสาวะ หรือทำเทสด้วยการกินยาเด๊กซ่าแล้วเจาะเลือดดูคอร์ติซอลค่ะ
แนะนำปรึกษาหมอคนเดิมที่รักษานะคะ ประวัติจะได้ต่อเนื่องค่ะ
Read more comments...
ครรภ์เป็นพิษขั้นรุนแรงตอนอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ แล่วผ่าคลอดออกทันที ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนแล่วอาการภายนอกดีขึ้นคือ ความดันจากสูง 140 ขึ้น เหลือ 90/50-60 ตัวหายบวม แต่ที่กังวลมากคือ โปรตีนรั่วคะ เพราะตอนครรภ์เป็นพิษตรวจปัสสาวะ 24 ชม เจอ โปรตีนรั่ว 27000+ ตอนนี้ซื้อแถบตรวจปัสสาวะมาไว้ที่บ้าน จากตอนท้อง แถบขี้นบวก 3 กับ 4 ตอนนี้ 1 เดือนผ่านไป บางวันขึ้น Negative บางวันขึ้น trace หมายความว่ายังไงคะ แบบนี้เสี่ยงเป็นโรคไตไหมคะ แล้วโปรตีนรั่วจะกลับมาปกติเมื่อไรคะ ต้องไปพบแพทย์โรคไตหรือป่าวคะ กังวลมากคะ ขอบคุณคะ
โปรตีนรั่วหลังครรภ์เป็นพิษ อาจหายได้ หกเดือนหลังคลอด หากเดิมปริมาณมากแล้วค่อยๆลดลง แสดงว่าดีขึ้น บางวันตรวจแล้วปกติ บางวัน trace แปลว่าลดลงแล้ว ทั้งนี้ขึ้นกับอาหารที่รับประทานก่อนหน้านั้นด้วยค่ะ ว่ารับประทานโปรตีนมากขนาดไหน
แนะนำไปตรวจให้ชัดเจน เป็นค่าตัวเลขที่รพ หลังคลอด 6เดือนนะคะ
กรดไหลย้อนถ้าเพิ่งเริ่มเป็นควรทำตัวอย่างไรครับ
นพ.นนทพรรธน์
ต้องมาซักประวัติอย่างละเอียดก่อนครับ ว่าอาการเข้าได้กับกรดไหลย้อนจริงหรือไม่ เช่นอาการ แสบยอดอก หรือ เรอเปรี้ยว เป็นต้น
แนะนำพบแพทย์ที่ รพ เพื่อการวินิจฉัย ที่ถูกต้องก่อนครับ
khch
สวัสดีค่ะทุกเช้าหนูจะเข้าห้องน้ำและเห็นมีเหมือนฟองนมสีขาว ออกมากับปัสสาวะด้วยค่ะ อยากทราบว่าคืออะไรและอันตรายไหมคะ ไม่มีอาการไข้หรือปวดท้องใดๆค่ะ
ไม่ทราบว่าออกมากับปัสสาวะหรือออกจากช่องคลอดคะ แนะนำเอาปัสสาวะไปตรวจนะคะ
เวลาฉี่ตอนเช้าจะมี เมือกหรือฟองไม่แน่ใจอะค่ะ เป็นสีขาวขุ่น ปนออกมาด้วยค่ะ เป็นมาสามสี่วันแล้วค่ะ ไม่มีอาการไข้ หรือ ปวดท้องใดๆค่ะ อยากทราบว่าคืออะไรแล้วจะอันตรายไหมคะ
พญ.ณัฐวรรณ
ลักษณะที่เป็นเมือกขาวช่วงเช้าๆ อาจเกิดจากสารคัดหลั่งบริเวณช่องคลอด หรือเยื่อเมือกบริเวณทางเดินปัสสาสวะที่ปะปนออกมาได้ค่ะ ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่ได้อันตรายและหายได้เอง แต่หากปัสสาวะขุ่นร่วมกับมีฟองปนอาจจะต้องระวังว่าเป็นโปรตีนที่รั่วออกมาซึ่งต้องตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ดังนั้นถ้าอาการยังมีอยู่ตลอดและไม่หายไปแนะนำให้พบแพทย์ตรวจเพิ่มเติมค่ะ
รู้สึกเหมือนสำลักตลอดที่ดื่มน้ำ หรือ ทานแล้ว เป็นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่ทราบเป็นโรคอะไรค่ะ ร้ายแรงหรือเปล่า
นพ.ฤทธิกร
อาการเหมือนสำลักภายหลังทานอาหารหรือดื่มน้ำ เข้าได้กับโรคของทางเดินอาหารได้แก่ โรคกรดไหลย้อน โรคหลอดอาหารบีบตัวผิดปกติ โดยมากโรคดังกล่าวไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมหรือการรักษาเบื้องต้นโดยแพทย์
สำหรับโรคที่เกี่ยวข้องกับการสำลักที่มีความรุนแรง ควรมีประวัติที่สำคัญอื่นๆร่วมด้วย (ไม่ควรมีเพียงสำลักอย่างเดียว) เช่น โรคทางสมอง มักมีอาการอ่อนแรงหรือกลืนลำบากร่วมด้วย โรคมะเร็งหลอดอาหาร มักมีอาการกลืนติด กลืนลำบาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลดร่วมด้วย เป็นต้น
กรณีเพียงอาการเดียวแนะนำให้สังเกตอาการร่วมอื่นๆด้วย เพราะประวัติอย่างละเอียดของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ดีที่สุดครับ
คุณหมอคะหนูมีอาการเจ็บบริเวณเต้านมคะ ไขมันบริเวณอกค่อนข้างเยอะ หน้าอกไม่เท่ากันค่อนข้างมากเห็นได้ชัดเจน และก็หย่อนยานด้วยคะ หนูอายุ35 คะเป็นคุชชิ่ง. ไวรัสตับอักเสบบี นิ่วและถุงน้ำในไต ติ่งเนื้อที่ถุงน้ำดี แต่หนูคลำก้อนไม่เป็นคะ เพราะส่วนใหญ่มันจะนิ่มเพราะมีไขมันส่วนใหญ่ หนูสมควรทำแมมโมแกรมมั้ยคะ หนูกลัวเจ็บและก็กลัวตรวจพบสิ่งปกติคะ หนูควรทำอย่างไรคะ
ทำแมมโมแกรม เจ็บแบบบีบๆค่ะ ไม่ได้เจ็บมากนัก ถ้าเนื้อเต้านมเยอะ ก็จะไม่ค่อยเจ็บมาก เหมือนคนเต้านมเล็ก
หากไม่แน่ใจ ไปให้หมอศัลยกรรมหรือผู้เชี่ยวชาญตรวจได้ค่ะ
หากกังวล อาจทำอัลตราซาวก่อนได้
อย่างไรก็ดี อายุมากขึ้น ทำ แมมโมแกรมเลยก็ไม่ผิดค่ะ
คุณพ่อมีอาการสำลักอาหาร น้ำลาย น้ำ บ้างอะ แต่ช่วงนี้สังเกตุเห็นว่าเป็นบ่อยขึ้น ล่าสุดสำลักจนหน้าเขียวเลยค่ะ นานกว่าจะดีขึ้น มีอาการหายใจไม่ออกร่วมด้วย อยากสอบถามว่า เป็นเพราะพฤติกรรมการกิน หรือว่านี่เป็นอาการบ่งบอกโรคอะไรหรือเปล่าคะ คุณพ่ออายุ 52 ปีค่ะ มีโรคประจำตัวคือ เบาหวานและความดัน แต่เดินออกกำลังกายทุกวันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
อาการสำลักอาหารเกิดได้หลายสาเหตุครับ ที่สำคัญที่จำเป็นต้องไปตรวจเพิ่มเติมที่รพ.ได้แก่
1) มีอาการกลืนลำบาก กลืนเจ็บ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่วมด้วย นึกถึงโรคกัอนเนื้อที่หลอดอาหาร
2) มีอาการอ่อนแรง แขน-ขา หรืออาการชา ครึ่งซีก (ขวา-ซ้าย) อาการปากเบี้ยวพูดไม่ชัด เห็นภาพซ้อน นึกถึงโรคหลอดเลือดสมอง
3) อาการหอบเหนื่อยเป็นๆหายๆ เป็นมากเวลาทำกิจกรรม นึกถึงโรคทางหลอดลม (แต่อาจต้องมีประวัติอื่นๆร่วมด้วย เช่น สูบบุหรี่มานาน เคยเป็นหอบหืด)
สำหรับโรคอื่นๆที่ไม่เป็นอันตรายรุนแรง แต่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาต่อเนื่อง ได้แก่
1. กรดไหลย้อน เกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การทานอาหารที่เพิ่มความเสี่ยง เช่น ชา กาแฟ สูบบุหรี่, การเอนตัวนอนหลังอาหารเร็วเกินไป (น้อยกว่า 2 ชม.)
มีอาการแน่นท้องเหมือนมีลมในท้อง แล้วก็ตามมาด้วยหายใจไม่อิ่มค่ะ ออกกำลังหาย แปปเดียวเหนื่อยค่ะ กินยาแล้ว กินตามที่หมอบอก กินยาก็ไม่หายค่ะ ต้องทำยังไงค่ะ สมควรที่จะส่องกล้องไหมค่ะ
ก่อนอื่น ขออภัยที่เข้ามาตอบช้านะครับ
อาการแน่นท้อง อาจเป็นอาการของลมหรือกรดในกระเพาะที่มากเกินไป ถ้าปริมาณลมมีมากจะดันกระบังลมทำให้มีหายใจไม่อิ่มได้ ส่วนมากไม่มีอันตรายใดๆ ให้รักษาอาการของกรดหรือแผลในกระเพาะครับ
เรื่องออกกำลังกายแล้วเหนื่อยง่ายมีหลายสาเหตุมากๆ ทั้งโรคหัวใจ โรคปอด ควรมีอาการอื่นๆประกอบเพื่อให้นึกถึงโรคนั้นๆมากขึ้น เช่น โรคหัวใจ อาจมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนมีของหนักมาทับ อาการใจสั่น ลุกขึ้นมาเหนื่อยตอนกลางคืนหรือนอนราบแล้วเหนื่อย โรคทางปอด อาจมีไอเรื้อรัง มีเสมหะ หายใจมีเสียงหวี๊ด ถ้ามีอาการเหนื่อยอย่างเดียวโดยที่ไม่อาการอื่นๆเลยอาจต้องตรวจเพิ่มเติมหลายรายการ เช่น การตรวจเม็ดเลือด ค่าการทำงานของไต ตับ เกลือแร่ ภาพรังสีปอด เป็นต้น
การส่องกล้องหลอดลมไม่ได้ช่วยวินัจฉัยโรคทุกโรคของปอด การมีอาการทางปอดเพียงประวัติและตรวจเพิ่มเติมเล็กน้อยก็สามารถวินิจฉัยได้ และต้องมีเหตุอันควรบ่งชี้ว่าสมควรได้รับการส่องกล้อง ได้แก่ มีก้อนในปอด มีรอยเปื้อนในภาพรังสี (x-ray, CT scan) โดยมากเป็นการวินัจฉัยแยกโรคเพิ่มเติม ซึ่งต้องผ่านการตรวจพื้นฐานดังกล่าวมาแล้ว ในกรณีนี้จึงคิดว่ายังไม่จำเป็นครับ
ถ้าอาการเหนื่อยยังมีต่อเนื่อง แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่สามารถตรวจเพิ่มเติมได้ และให้สังเกตอาการข้างเคียงที่ผิดปกติร่วมด้วยเพื่อให้ประวัติแพทย์โดยละเอียด การกินยามาก่อนพบแพทย์มาก่อนก็ควรบอกให้ชัดเจนว่าทานยาอะไร เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นอะไร สิ่งต่างๆเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์มีกรอบการวินิจฉัยแม่นยำขึ้นเป็นประโยชน์สูงสุดกับคนไข้ครับ
สำเร็จ