พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii
Guest
ปวดน่องคล้ายเป็นตะคริวคลำได้ก้อนขนาดลูกปิงปองนิดๆสงสัยเป็นก้อนเส้นเลือดขอดจะตรวจได้มั้ยคะว่าใช่เส้นเลือดขอดมั้ยรักษาอย่างไรคะ
Dr.Bee@JiraClinic
สามารถตรวจเพิ่มเติมได้ค่ะ การวินิจฉัยเส้นเลือดขอดสามารถดูได้จากการตรวจร่างกายก็เพียงพอค่ะ อาจตรวจเพิ่มเติมในกรณีที่จากการตรวจร่างกายไม่เห็นชัดเจน มีตั้งแต่การทำอัลตราซาวน์และการฉีดสีตรวจหลอดเลือดค่ะ การรักษามีได้หลายวิธีตั้งแต่การใช้ยาการใส่ถุงน่องเพื่อช่วยลดตั้งของเลือดดำ จนไปถึงการผ่าตัดค่ะ แนะนำให้พบศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านหลอดเลือดโดยตรงนะคะ
Read more comments...
์Nop.b
การเป็นริดสีดวงนานๆ หลายปี จนเป็นก้อนออกมานอกทวารหนัก แต่ปัจจุบันจะมีแค่เลือดออกซิบๆ ถึงไม่มีเลย ไม่ทราบว่าการบ่อยให้เป็นริดสีดวงนานๆ แบบนี้ จะกลายเป็นมะเร็งได้หรือไม่ครับ
ริดสีดวงจะไม่กลายเป็นมะเร็งในอนาคตค่ะ แต่การมีเลือดออกทางทวารหนักบ่อยๆต้องแยกจากภาวะเนื้องอกในลำไส้ด้วยนะคะ ถ้าเลือดออกไม่สัมพันธ์กับริดสีดวง(หมายถึงไม่ได้ออกมาจากโดยตรง)น่าจะต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเช่นการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลายและทวารหนักค่ะ
เท้าความก่อนคับ คือเมื่อนานมาแล้วพ่อผม ปัจจุบันอายุ 84 ปี เป็นริดสีดวงทวาน ทำให้มีทั้งการผ่าตัดและตัดออก ประมาณ 2 -3 ครั้ง แต่มีครั้งหนึ่งที่ไปหาหมอที่เป็นคนจีน เหมือนเค้าเอาน้ำกรด หยดลงไปที่ติ่งเนื้อ เพื่อให้มันหลุดออกมา แต่ทำให้พ่อผมเหมือนกล้ามเนื้อที่หูรูดเสียหาย จนปีัจจุบันเวลาที่เดินหือเคลื่อนไหว บางครั้งต้องหยุดเพื่อยืนเอาส้นเท้า นั่งแล้วยัดเข้าไป เคยไปปรึกษาคุณหมอเมื่อ 10 ปีก่อน บอกต้องผ่าตัดหน้าท้องเพื่อดึงลำไส้ขึ้น ไม่ให้หย่อนแล้วเย็บให้หูรูดแคบลง ประมาณนี้ครับ ไม่ทราบว่าจะมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
ภาวะกล้ามเนื้อหูรูดมีปัญหา (เข้าใจว่ามีปัญหาแค่บางส่วนของหูรูดนะคะ) และ ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายยื่นออกมาจากทวารหนัก การดูแลรักษาควรเริ่มจากการทานอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้อุจจาระนิ่มลง และลดการเบ่งถ่าย รวมทั้งฝึกขมิบกล้ามเนื้อหูรูดด้วยตนเอง หรือ เรียกว่า Kegel Exercise สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางอินเตอร์เนทนะคะ ที่สำคัญในขณะที่ลำไส้ยื่นออกมาควรรีบดันกลับ เพื่อไม่ให้ลำไส้บวมมาก และอาจดันกลับไม่ได้หรือลำไส้ขาดเลือดมาเลี้ยงได้ค่ะ
Dao
แผลผ่าตัดบริเวณช่องท้องที่เย็บด้วยไหมละลาย หากผ่านมา 2 สัปดาห์ แผลภายนอกดูแห้งดี สามารถแกะพลาสเตอร์กันน้ำออกและโดนน้ำได้เลยหรือไม่คะ แต่หากยังมีอาการเจ็บแผลอยู่เล็กน้อย (แผลภายนอกดูแห้งดี) หลังผ่ามา 2 สัปดาห์แล้ว ควรปิดพลาสเตอร์กันน้ำต่อจนไม่รู้สึกเจ็บแผลแล้วค่อยโดนน้ำ จะดีกว่าหรือไม่คะ
ปกติหลังเย็บแผล 1 สัปดาห์ ถ้าแผลแห้งปิดสนิทดี สามารถเปิดแผล และ โดนน้ำได้เลยค่ะ อาการเจ็บเล็กน้อยจะคงอยู่ได้ 1 เดือน หรือ 1เดือนครึ่งค่ะ
รถล้มมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาค่ะ แล้วเกิดหนังถลอกหลุดลอก เห็นชั้นหนังกำพร้า มีวิธีดูแลรักษาอย่างไรคะ? แล้วหนังที่ถูกทำลายแต่ยังติดกับผิวหนังนี่ควรจัดการอย่างไรคะ ขบอคุณค่ะ
สำหรับแผลถลอก ระยะแรก ควรทำความสะอาด เอาเศษสิ่งสกปรกออกให้หมดค่ะ ทารอบแผลด้วยน้ำยาที่มีฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย ส่วนบริเวณแผลให้ใช้น้ำเกลือล้างจนสะอาด เพราะหากมีเศษดำๆฝังในแผล จะทำให้เป็นรอยฝังลึกใต้ชั้นผิวได้นะคะ
หลังจากนั้นให้รักษาความสะอาดทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง โดยล้างด้วยน้ำเกลือ และป้ายแผลด้วยยาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งสกปรกเพิ่มเติมค่ะ
ส่วนหนังตายที่ติดอยู่ จะค่อยๆลอกออกไปเองค่ะ
ในกรณีที่ถลอกลึก ควรพบแพทย์ เพื่อหาทางปิดแผล เพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็นค่ะ
เริ่มแรกที่เป็นมีอาการเจ็บจี๊ดๆที่เต้านมข้างขวาเป็นๆหายๆบางที่ก็ปวดแป็บเดียวก้หายบางทีเป็นใต้ราวนมบ้างข้างเต้านมบ้างจะไม่มีที่ปวดประจำบางที่ก้ไม่เป็นนานเป็นเดือนบางที่่ก้เป็นทุกวันแต่ไม่ได้ปวดตลอดบางที่1วันจะเป็นซักสามครั้งก้เลยไปตรวจแมทโมแกรมแล้วก้ซาวดูก้ไม่มีก้อนหมอก้บอกว่าปกติตั้งแต่ที่ไปตรวจก้เป็นมาปีกว่าแล้วคะก้ยังไม่หายก้ยังมีอาการอยู่บางทีก้ชาๆบางทีก้ร้อนๆเป็นแต่ละครั้งไม่ถึงวินาทีก้หายก้ไปตรวจอีกรอบสองเมื่อ4เดือนที่แล้วหมอก้บอกไม่เป็นไรคุณหมอว่าหนูจะเป็นอะไรร้ายแรงมั้ยคะแล้วหนูต้องไปตรวจรอบที่สามมั้ยคะ..ขอบพระคุณมากคะ
ปกติแล้ว แมมโมแกรม และ อัลตราซาวน์ มีความแม่นยำสูงมากค่ะ โอกาสผิดพลาดน้อยมากๆ ถ้าทำสองครั้งแล้วผลปกติดีสามารถเชื่อถือได้ และตรวจซ้ำตามเวลาเหมือนคนทั่วไปคือทุก 1-2ปีค่ะ อาการเจ็บจี๊ดจี๊ดบริเวณหน้าอกส่วนมากเป็นจากกล้ามเนื้อและเส้นประสาทบริเวณทรวงอก ซึ่งอาจมีการอักเสบได้เป็นครั้งคราว ลองสังเกตดูว่าอาการเจ็บเกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติหรือยกของหนักร่วมด้วยหรือไม่ค่ะ การรักษาตัองแก้ที่สาเหตุค่ะ
แผลกดทับมีอาการเบาหวานด้วยทำไงให้แผลหายคะ
ภาวะแผลกดทับ ต้องรักษาจากสาเหตุค่ะ ผู้ป่วยมักไม่มีความรู้สึกบริเวณที่กดทับบ่อยๆ เวลามีอาการชาทำให้กดทับบริเวณนั้นนานๆโดยไม่รู้ตัว หลังจากโดนกดทับนานนานผิวหนังบริเวณนั้นก็จะขาดเลือดไปเลี้ยงระบบบนเวียนเลือดมีปัญหาทำให้แผลแตกออกและจะลึกขึ้นเรื่อยๆ
วิธีการรักษาที่ถูกต้องคือ
1. ลดการกดทับบริเวณนั้นโดยพลิกตัวบ่อยบ่อยในกรณีที่ขยับตัวเองลำบาก เปลี่ยนท่าจากนอนมาลุกนั่ง จากนอนหงายมาตะแคงกลับไปมา
2.การควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีที่สุด พยายามควบคุมอาหารหวาน และ รับประทานหรือฉีดยาตามแพทย์สั่ง
3. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน ค่ะ
4. รักษาแผลให้สะอาดเสมอ หากเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ ต้องรีบเปลี่ยนแผลทันทีนะคะ
ได้ไปตรวจสุขภาพพบว่าผล อัลตร้าซาวน์พบ ก้อนเนื้อที่เต้านมขอบเรียบ ขนาด 0.65 * 0.28 ซม.บริเวณ 10 นาฬิกาที่เต้านมด้านขวา (a group of macrocalcifications inupper-mid part of right breast. Multiple macrocalcifications scatteringin both breasts are noted) แพทย์นัดอีก 6 เดือนให้ทำซ้ำค่ะ หลังจากไปตรวจ ก็สำรวจตัวเองเพิ่มเติมพบว่ามีความผิดปกติพวกนี้ด้วย และเกิดก่อนไปตรวจแต่ไม่คิดว่าเป็นอะไรคือมีอาการปวดไหล่ข้างขวา มีก้อนเล็กๆที่คอทั้ง 2 ข้าง บางครั้งก็รู้สึกเจ็บเต้านม แบบจี๊ดๆแต่ไม่เจ็บมาก จะเป็นช่วงก่อนมีประจำเดือน อยากทราบว่าอาการที่เป็นมีความสอดคล้องกับโรคมะเร็งหรือไม่ค่ะ
จากอาการที่คนไข้เล่ามาค่อนข้างไม่จำเพาะเจาะจงค่ะก้อนเล็กๆที่ลำคออาจจะเป็นต่อมน้ำเหลืองซึ่งในคนที่ผอมอาจคลำได้ค่ะหรือถ้ามีการติดเชื้อเล็กๆน้อยๆในลำคอหรือบริเวณใบหน้าก็ทำให้มีก้อนพวกนี้ได้ อาการที่มีเจ็บที่เต้านมก่อนมีประจำเดือนมักไม่สัมพันธ์กับมะเร็งค่ะการทำแมมโมแกรมร่วมกับอัลตราซาวน์ค่อนข้างเชื่อได้มากๆค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ที่สำคัญคืออีก6เดือนควรตรวจซ้ำเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงค่ะ
ตอนนี้ แฟนผมเข้านอนในโรงพยาบาล เป็นนิ่วทีถุงน้ำดี แต่ยังไม่ได้ผ่า หมอให้อดอาหาร อดน้ำ สามวันรอดูอาการ ตอนนี้วันแรกปวดท้องตลอดเวลาซึ่งเป็นอาการของโรคนี้ เลยอยากถามว่า ต้องอดอาหารถึง สามวันเพื่ออะไรครับ อดอาหารสามวันจะมีปัญหากับร่างกายหรือไม่ครับ
สวัสดีค่ะจากที่เล่ามาคิดว่าคุณหมอคงนึกถึงภาวะถุงน้ำดีอักเสบฉับพลันจากนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งการรักษาคือการให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ และ ให้สารน้ำทางหลอดเลือด (น้ำเกลือ) ค่ะ การงดน้ำงดอาหารมีจุดประสงค์เพื่อเฝ้าดูอาการ เพราะถ้าเป็นมากขึ้นต้องผ่าตัดฉุกเฉินค่ะ ปัจจุบันกรณีถุงน้ำดีอักเสบควรผ่าตั้งแต่ระยะแรกถ้าไม่มีข้อห้ามนะคะ การงดน้ำงดอาหารไม่เป็นอันตรายถ้ามีการให้สารน้ำทางหลอดเลือดค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ ดิฉันอายุ 39 ปี ส่วนสูง 157 ซม. นน. 58 กก. เพิ่งผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันไปเมื่อ 16 กค. 59 โดยคุณหมอแจ้งว่าไส้ติ่งยาวประมาณ 2.5 นิ้วและวกไปข้างหลังจึงปวดหลังด้วย แผลผ่าตัดยาว 3.5 นิ้วค่ะ หลังจากที่ผ่าตัดแล้วแผลผ่าตัดก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่พบปัญหาคือบางครั้งเจ็บจี้ดที่ท้องน้อยด้านขวามาก (ตำแหน่งไส้ติ่งปกติที่อยู่ด้านหน้า แต่ตอนไปตรวจไม่ปวดมากเพราะไปปวดหลังมากกว่า) เวลาเจ็บจี้ดแต่ละทีจะเจ็บมากขนาดนอนๆ อยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น และมีปวดหลังตำแหน่งส่วนที่ไส้ติ่งเคยอยู่ด้วยค่ะ ซึ่งตอนไปตรวจแผลผ่าตัดใหม่ๆ คุณหมอเคยถามว่าปวดหลังมั้ย ตอนนั้นไม่ปวด ตอนนี้เริ่มปวดแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรคะ ต่อมามีปัญหาเพิ่มขึ้นมาคือ ประมาณสัปดาห์ที่แล้วเริ่มเจ็บจี้ดที่ท้องน้อยด้านซ้ายใต้สะดือไปประมาณ 1.5-2 นิ้วค่ะ แรกๆ เจ็บจี้ดไม่มาก ไม่ถึงนาที นานๆ มาที แต่ตอนนี้เริ่มเจ็บจี้ดมากขึ้นจนสะดุ้งและจะเจ็บประมาณ 1-2 นาที แล้วหายไป แต่เริ่มถี่ขึ้นแล้วค่ะ วันนี้ประมาณ 5 ครั้งได้แล้ว แต่เย็นวันนี้เริ่มเจ็บจี้ดหนักขึ้นและเริ่มมีอาการปวดร่วมด้วยค่ะ เอี้ยวตัวหรือขยับตัวจะยังเจ็บแผลผ่าตัดอยู่ค่ะ ถ้ายกของหนักเกิน 2 กก.จะเจ็บแผลทันที ไม่ทราบว่าอาการนี้เกี่ยวข้องกับการที่ผ่าตัดไส้ติ่งหรือไม่คะ ต้องดูแลอย่างไร หรือต้องไปหาหมอคะ ปล. ก่อนหน้านี่เคยเป็นโรคกระเพาะอักเสบชนิดไม่มีแผลและลำไส้แปรปรวน แต่ตั้งแต่ผ่าตัดไส้ติ่งออกไปก็แทบจะไม่เป็นอะไรอีกเลย คุณหมอกดกระเพาะกับตำแหน่งลำไส้ที่เคยอักเสบก็แค่จุกๆ ไม่เจ็บจ๊ากเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ
หลังผ่าตัดบริเวณช่องท้อง จะมีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหน้าท้องใกล้ๆแผลผ่าตัดได้นะคะ เนื่องจากการเข้าถึงอวัยวะภายในช่องท้องได้ต้องผ่านชั้นกล้ามเนื้อลงไปค่ะ อาการเจ็บจะเป็นแบบเจ็บจี๊ด เหมือนเข็มแทงได้ค่ะ มักเป็นพักๆ ไม่ปวดตลอดเวลา พบได้ถึง 2 เดือนหลังผ่าตัดค่ะ แต่ต้องนึกถึงภาวะที่ร้ายแรงไว้ด้วยนะคะ เช่นมีน้ำที่เกิดจากการอักเสบค้างในช่องท้องค่ะ แต่มักมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ไข้ เบื่ออาหาร ลำไส้แปรปรวน ไม่ถ่าย หรือ ท้องเสีย ถ้าปวดมากขึ้น หรือ เป็นตลอดเวลา แนะนำให้กลับไปปรึกษาศัลยแพทย์เจ้าของไข้นะคะ
สำเร็จ
