พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii

  • Q มีอาการคัน กลางคืนและเช้าจะคันมาก มีรอยเส้นสีดำและผิวเท้าไม่เรียบบร...
    13-01-2017 00:03:50

    มีอาการคัน กลางคืนและเช้าจะคันมาก มีรอยเส้นสีดำและผิวเท้าไม่เรียบบริเวณที่คัน คุณหมอคะ ที่ฝ่าเท้าข้างนึงคันมาก และมีผิวไม่เรียบมีรอยสีดำๆเป็นเส้น คิดว่าจะเป็นพยาธิไชเท้า ถ้าไปหาหมอผิวหนัง เค้าจะเขี่ยพยาธิออก หรือทำอะไรได้บ้างคะ? จะใช้สิทธิ์ปกส. แต่ต้องลางานไป เลยต้องดูความจำเป็น ปล.มียาถ่ายพยาธิทานแล้ว มันจะตายไปไหมคะ ได้ยินว่ามันจะตายไปเอง เราต้องทนคันไปหน่อยแค่นั้น รึเปล่าคะ?


    14-01-2017 16:10:50

    รอยเส้นสีดำและผิวเท้าไม่เรียบ มีอาการคัน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น เชื้อราที่ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้า ผื่นภูมิแพ้สัมผัสของผิวหนังที่สัมผัสกับรองเท้า ผิวหนังหนาขึ้นจากแรงกดทับบริเวณฝ่าเท้า เป็นต้น ค่ะ

    หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจดูอาการ และให้การรักษาที่เหมาะสมตามอาการนะคะ

    ในส่วนของพยาธิไชเท้าหรือไชผิวหนัง ผื่นมักจะมีสีแดงมากกว่าที่จะเป็นสีดำ และเป็นเส้นคดโค้ง มีอาการคันได้ ดังตัวอย่างภาพที่แนบค่ะ (เครดิตภาพจาก http://mddk.com/wp-content/uploads/2015/03/cutaneous-larva-migrans-pictures-5.jpg) เนื่องจากพยาธิเป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย กระตุ้นให้เกิดการอักเสบไปตามบริเวณที่พยาธิไชได้ การรักษาเป็นการให้ยารับประทานค่ะ โดยเลือกชนิดยาถ่ายพยาธิให้ตรงตามลักษณะผื่นที่สงสัยพยาธิชนิดนั้นๆ ค่ะ

    กรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์อารุยกรรมโรคติดเชื้อก่อนก็ได้นะคะ

    user upload image
  • Q เป็นผื่นที่ข้อพับแขนมา 1 ปี
    12-01-2017 23:26:57

    ผมมีผื่นเล็กๆขึ้นที่ข้อพับแขนขวามา 11 เดือนก่อนครับ ตอนแรกขึ้นเม็ดเดียว ไม่คัน ไม่เจ็บ ต่อมาลามเป็นมากขึ้นเรื่อยๆทีละเม็ด ไม่ได้ทายาหรือกินยาอะไรคับ ผื่นไม่ยอมยุบ ไม่หายเอง บางเม็ดมีจุดเล็กๆ บุ๋มตรงกลาง ปกติก็เป็นคนไม่เคยแพ้แป้งหรือโลชั่นมาก่อน มีคลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่คอด้วยคับ 2 ถึง 3 อัน โตมานานสองปี ไม่ทราบว่าผมเป็นโรคอะไรและมีวิธีรักษาหรือไม่ครับ


    13-01-2017 17:31:33

    ผื่นที่เล่ามาเป็นได้หลายอย่างมากเลยค่ะ แต่ถ้าไม่มีอาการอะไร ไม่หายเอง เพิ่มจำนวนขึ้นช้าๆ มีรอยบุ๋มตรงกลาง น่าจะเข้าได้กับหูดข้าวสุกมากที่สุดค่ะ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไม่ใช่โรคอันตราย แต่ทายาเองอาจไม่หายค่ะ และมีโอกาสเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆได้ค่ะ ควรไปทำการตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดและทำการรักษาที่โรงพยาบาลนะคะ ส่วนต่อมน้ำเหลืองที่คอ อาจไม่สัมพันธ์กับผื่นที่แขนนะคะ แต่หากเป็นมานานแล้ว หมอก็แนะนำให้ตรวจหาสาเหตุด้วยเช่นกันค่ะ

  • Q ก้อนแข็งขนาด 2 ซม.บริเวณท้ายทอย
    12-01-2017 12:21:58

    เนื่องจากคันและเจ็บด้านหลังคอตรงท้ายทอยเพราะโดนแมลงก้นกระดกต่อย และข้างๆที่โดนกัดมีก้อนแข็งขนาด 2 ซม.ที่ท้ายทอยด้านขวา (จับที่ก้อนไม่รู้สึกเจ็บ) พบตั้งแต่ประมาณปลายๆเดือน ธ.ค จนถึงวันนี้อาการคันที่โดนกัดหายแล้วลองจับที่ก้อนรู้สึกเล็กลงเล็กน้อย. รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำด้วยค่ะ ควรไปพบแพทย์เพื่อนตรวจอย่างละเอียดหรือรอดูอาการอย่างไรดีค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ เจี๊ยบ


    12-01-2017 23:03:55

    ผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดก มักหายสนิท หรืออาจทิ้งเพียงรอยดำค่ะ

    ส่วนก้อนขนาด 2 ซม. บริเวณท้ายทอย จำเป็นต้องตรวจร่างกายเพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องค่ะ การตรวจคลำและดูลักษณะก้อนถึงจะบอกโรคได้ ว่าเป็นก้อนอะไร เช่น ก้อนซีสต์, ก้อนเนื้องอกไขมัน, ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น หรือก้อนจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีกมากมาย 

    แนะนำให้ไปตรวจนะคะ เพื่อการวินิจฉัยที่เหมาะสมและถูกต้องค่ะ

  • Q มีอาการคันตามผิวหนังบริเวณแขน และขาเป็นเพราะอะไรคะ
    11-01-2017 20:13:14

    มีอาการคันตามแขนและขา คันมากๆตอนหัวค่ำเป็นต้นไป ช่วงกลางวันคันน้อยกว่า เป็นมาประมาด1 สัปดาห์แล้วค่ะ ไม่ได้กินยาอะไร และเป็นผื่นคันนะคะ แต่ว่ารู้สึกคันยิบๆตลอดเวลา พยายามไม่เกาแต่มันคันมากไม่เกาไม่ได้ค่ะ ทำยังไงได้บ้างคะ สบู่ก็ไม่ได้เปลี่ยนยี่ห้อนะคะ ใช้แบบเดิมๆที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาอะไร คิดว่าผิวจะแห้งแต่ว่าทาครีมบำรุงผิวแล้วก็ยังคันอยู่ค่ะ ตอนนี้อายุ 47-48 แล้วค่ะ อาการคันนี้เกิดจากอะไรไดับ้างคะ ไม่อยากเกาแล้วค่ะกลัวเป็นแผล สุขภาพปกตินะคะ ไม่มีโรคประจำตัวอะไรค่ะ


    31-01-2017 18:51:57

    อาการคันยิบๆแบบไม่มีผื่นชัดเจนและผิวไม่แห้ง อาจเกิดจากการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม อาบน้ำอุ่นบ่อยๆ หรือใช้สบู่ที่แรงเกินไป หรือเป็นจากวิตามินบางชนิดที่ทานมาเป็นเวลานานก็เป็นได้ ถ้าไม่มีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกเหล่านี้ อาจมีสาเหตุจากโรคของระบบอื่นในร่างกายที่ซ่อนอยู่โดยที่ยังไม่มีอาการแสดงในอวัยวะนั้นๆก็เป็นได้ค่ะ เช่น โรคเลือด โรคของต่อมไทรอยด์ โรคตับ หรือโรคของระบบเส้นประสาท เป็นต้นค่ะ หมอขอแนะนำให้เข้ารับการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยละเอียดกับแพทย์ผิวหนัง พร้อมทั้งตรวจเลือดหรือวิเคราะห์หาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนทำการรักษานะคะ

  • Q ตุ่มเม็ดขึ้นที่หลังแขนเป็นเวลาหลายปีแล้วค่ะ
    05-01-2017 21:39:36

    สวัสดีค่ะ คุณหมอ มีตุ่มใสๆขึ้นที่หลังแขน(เป็นข้างเดียวนะคะ) เป็นแค่จุดๆเดียว จุดเดิม หรือไม่ก็บริเวณใกล้เคียง ส่วนมากจะเป็นช่วงหน้าร้อนเวลามีเหงื่อค่ะ เท่าที่สังเกตุนะคะ เป็นมาหลายปีแล้วค่ะ เป็นๆหายๆ ช่วงแรกๆ(ประมาณปีแรก)เกดใช้ยาพวกยาฆ่าเชื้อรา หรือพวกกลากเกลื้อนทา สองสามวันก็แห้งนะคะ แล้วก็ยุบ แต่ก็ขึ้นใหม่ ช่วงนี้ใช้คารามายทาค่ะ ก็เหมือนกันค่ะ สองสามวันก็จะแห้งแล้วยุบลง แต่สองสามวันก็ขึ้นใหม่อีก น่ารำคาณมากๆค่ะ รบกวนปรึกษาคุณหมอค่ะว่า ควรจะรักษาอย่างไรดีคะที่จะทำให้หายขาด ขอบคุณค่ะ


    10-01-2017 21:58:52

    จากอาการที่เล่ามาน่าจะเข้าข่ายผื่นผิวหนังอักเสบในกลุ่มที่เรียกว่าเป็นผิวภูมิแพ้ค่ะ ซึ่งถ้าเป็นไม่มาก จะมีอาการเฉพาะที่ ซึ่งก็มักจะเป็นที่เดิมๆ มีปัจจัยกระตุ้นที่สังเกตได้ชัดเจน เหมือนบริเวณนั้นเป็นจุดอ่อนของเราไปแล้ว วิธีการรักษาก็ง่ายๆค่ะ ทายาหรือบางทีแต่ทาครีมก็หายได้ ส่วนที่ยากคือการป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นใหม่ค่ะ อย่างแรกคือต้องพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นค่ะ ถัดมาหมอขอแนะนำหลักการดูแลผิวให้ลองนำไปปฏิบัติดู จะช่วยให้ผิวสุขภาพดี แข็งแรงขึ้น ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของผื่นได้นะคะ

    1. พยายามหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นค่ะ หากอาบน้ำอุ่นเป็นประจำจนเคยชินแล้ว อาจลองค่อยๆปรับให้อุ่นน้อยลงเรื่อยๆค่ะ (เปลี่ยนไปอาบน้ำเย็นเลยทันที อาจจะทรมานเกินไป)

    2. ใช้สบู่อ่อนๆเวลาอาบน้ำ และใช้เท่าที่จำเป็นค่ะ อาจเริ่มด้วยการอาบน้ำเปล่าตอนเช้า เพราะตื่นเช้ามาตัวเราไม่ได้เลอะเทอะอะไรเท่าไหร่ และใช้สบู่อาบน้ำเฉพาะตอนเย็น วันละครั้งก็พอค่ะ

    3. ทาครีมหลังอาบน้ำทันทีที่เช็ดตัวเสร็จใหม่ๆ ทั้งเช้าและเย็น อันนี้อาจต้องเลือกครีมให้เหมาะกับลักษณะผิวของแต่ละคนค่ะ ครีมที่ดีขึ้นกับส่วนผสมนะคะ (ไม่ใช่ราคา) ที่ดูได้ง่ายที่สุดคงเป็นความข้นของครีมค่ะ ลองเทลงบนมือถ้าเอียงมือแล้วไม่ไหลหกออกมาถือว่าใช้ได้ ลองใช้ดูแล้วสังเกตความชุ่มชื้นที่ผิวค่ะ แต่ละยี่ห้อก็เหมาะกับผิวแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ บางคนใช้น้ำมันก็ได้ผลดีค่ะ กลุ่ม Baby oil และ น้ำมันมะพร้าว หรือแม้แต่วาสลีน ลองเลือกที่ชอบที่ใช่เลยค่ะ 

    หวังว่าวิธีการทั้งสามข้อนี้จะช่วยให้ผื่นมาเยือนลดลงนะคะ

  • Q อาการคันบริเวณผิวหนัง หลังจากออกกำลังกาย
    02-01-2017 23:30:50

    ในช่วงแรกๆที่ออกกำลังกายหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว จะรู้สึกคันตามผิวหนังทั้งบริเวณที่มีเสื้อผ้าปิดและบริเวณที่ไม่มีเสื้อผ้าปิด ซึ่งอาการคันนี้จะเป็นเฉพาะช่วงแรกที่เริ่มออกกำลังกายเท่านั้น(ประมาณ 1 สัปดาห์) หลังจากนั้นก็ออกกำลังกายมาเรื่อยๆ ก็ไม่เกิดขึ้นอีก เห็นคนเค้าว่าไขมันแตกตัว ไขมันมันสลาย บ้าง ส่วนตัวคิดว่าเกิดจากการเสียดสีเนื่องจากไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกาย แต่ในบริเวณน่อง หรือปลายแขน ที่ไม่มีเสื้อกดทับ ก็มีอาการคันเหมือนกัน เลยมาปรึกษาคุณหมอว่า มันเกิดจากอะไรครับ มีกลไกอย่างไรครับ เรียกว่าอะไรครับ


    09-01-2017 16:50:38

    อาการคันตามผิวหนังหลังจากออกกำลังกาย เป็นอาการที่พบได้ค่ะ เนื่องจากเป็นอาการ จึงไม่มีชื่อเรียกเฉพาะค่ะ
    กลไกและสาเหตุการเกิด เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น 
    - การที่มีเหงื่อออกมาก
    - ภาวะขาดน้ำของร่างกาย
    - การใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
    - มีสารเคมี เช่น ผงซักฟอก ที่ใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้ามาระคายเคืองผิวหนัง
    - และเคยมีข้อสันนิษฐานว่า มีการขยายตัวของเส้นเลือดขนาดเล็กบริเวณผิวหนัง ทำให้รบกวนเส้นประสาทผิวหนังบริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดอาการคัน
    - ถ้าอาการรุนแรง เช่น มีผื่นคันแดงนูนคล้ายลมพิษร่วมด้วย แนะนำให้ไปพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาต่อไปค่ะ

    ในส่วนของวิธีการบรรเทาอาการคันหลังออกกำลังกายนั้น แนะนำดังนี้ค่ะว่า การใส่เสื้อผ้าโปร่งสบาย, อยู่ในที่ลมเย็นอากาศปลอดโปร่ง เพื่อให้เหงื่อลดลงเร็ว ก็อาจช่วยลดอาการได้ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
    หมอศกุนี

  • Q ปวดแสบและคันมากบริเวณที่เป็นงูสวัดค่ะ
    31-12-2016 20:55:39

    เป็นที่มือค่ะ ไม่มีแผลเลยค่ะกินยาทัน(กินอะไซโคลเวียร์ไป2เซต) แต่ตอนนี้ปวดบริเวณที่เป็นปวดแสบ เสียวๆและคันค่ะเวลาเกาจะเจ็บไม่เกาก็คันยิบๆ มีครั้งนึงมันคันยิบๆไปทั้วมือพอลูบเบาๆมันเหมือนไฟลุกไปครึ่งแขนประมาณเกือบชั่วโมงทรมาณมากค่ะ รบกวนถามคุณหมอว่ามียาอะไรทานให้อาการปวดทุเบานอกจากพาราเซตตามอลบ้างคะ หรือยาทาก็ได้ค่ะ มันเอาไม่อยู่ค่ะขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


    01-01-2017 20:31:07

    อาการปวดตามเส้นประสาทในบริเวณที่เคยเป็นงูสวัด หรือ Post-herpetic neuralgia เกิดจากเส้นใยประสาท (nerve fibers) บางส่วนถูกทำลาย หลังการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นงูสวัดค่ะ อาการปวดมักจะคงอยู่นานเป็นเดือนหรือเป็นปี โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้อาการปวดคงอยู่นาน มีหลายปัจจัย เช่น อายุมาก, เป็นเบาหวาน, ผื่นงูสวัดเป็นรุนแรง เป็นต้น


    มียาหลายตัวที่ช่วยบรรเทาอาการ เช่น ยาทา Capsaicin gel, ยารับประทานกลุ่ม gabapentin (Neurontin), ยาทานกลุ่ม pregabalin (Lyrica), ยาคลายกังวล anti-depressants บางตัว, ยาแก้ปวดกลุ่ม opioids เป็นต้น แต่ทั้งนี้ยาทุกตัวควรทานภายใต้คำแนะนำของแพทย์และให้แพทย์เป็นผู้ปรับระดับยาเพื่อควบคุมและบรรเทาอาการปวดค่ะ ไม่ควรซื้อยาทานเอง

    หมอขอให้อาการดีขึ้นไวๆ นะคะ และแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันงูสวัดเพิ่มเติมในอนาคตค่ะ

  • Q ฉีดยาที่ข้อมือ แก้ปวดแล้วผิวหนังมีสีขาวขึ้น
    31-12-2016 05:45:16

    ฉีดยาที่ข้อมือมาเดือน6กับเดือน10รวม2ครั้งเนื่องจากปวดข้อมือ สังเกตเดือน12พบว่าผิวหนังมีสีขาวขึ้นกว่าบริเวณข้างเคียง ขนาดประมาณ2.5ซม*1.5ซม. มันจะมีขนาดเพิ่มขึ้นอีก หรือกลับมาสีเหมือนเดิมไหมคะสงสัยว่าเป็นยาkenacort


    31-12-2016 10:45:30

    รอยขาวที่เกิดหลังจากฉีดยา kenacort เกิดได้ภายใน 1-4 เดือนหลังฉีด สามารถหายได้เองภายใน 6-30 เดือนขึ้นกับความเข้มข้นหรือ potency ของยาที่ใช้และระดับความลึกในการฉีดค่ะ กรณีนี้รอยขาวหายกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ค่ะ แต่อาจต้องรอเวลานะคะ

  • Q กล้ามเนื้อหน้า
    29-12-2016 19:20:25

    มีวิธีที่จะทำให้กล้ามเนื้อกรามไม่ใหญ่ขึ้น หรือเล็กลง โดยไม่ต้องฉีดโบท็อกซ์มั้ยคะ ถ้าเราเคี้ยวข้าวน้อยๆ กินของนิ่มๆจะช่วยให้กล้ามเนื้อเล็กลงหรือไม่ ตอนนี้ฉีดโบท็อกมาปีกว่าแล้ว ไม่อยากฉีดซ้ำค่ะ แต่ก็ไม่อยากกรามใหญ่เท่าแต่ก่อน


    08-01-2017 10:53:17

    กล้ามเนื้อหน้าจะใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้เล็กน้อยตามระดับการใช้งานค่ะ เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆของร่างกาย ถ้าเราใช้งานเยอะ ยกเวทหนักๆบ่อยๆก็จะได้กล้ามล่ำๆใหญ่ๆ ถ้าเราไม่ได้ใช้งานมันเลยเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อก็จะลีบเล็กลงไปในที่สุดค่ะ

  • Q Botox
    27-12-2016 21:57:31

    การฉีดโบท็อกซ์ ทำให้หน้าหย่อนคล้อยและมีเหนียงมั้ยคะ


    28-12-2016 16:21:31

    Botulinum toxin หรือที่เรียกกันติดปากว่า โบท็อกซ์นั้น ออกฤทธิิ์ลดการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าค่ะ ถ้าฉีดบริเวณกล้ามเนื้อกราม มีส่วนช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง

    การมีใบหน้าหย่อนคล้อยและเหนียงใต้คาง ส่วนใหญ่เป็นไขมันบริเวณใบหน้าและลำคอ และการเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจนใต้ผิวตามวัยที่เพิ่มขึ้น จึงไม่มีผลเกี่ยวข้องกับการออกฤทธิ์ของโบทูลินั่มท็อกซินที่ฉีดเข้าไปค่ะ เพราะไม่ใช่กล้ามเนื้อ

    แต่ในบางรายถ้าบริเวณกรามดูเล็กลง อาจทำให้ดูเหมือนแก้มส่วนอื่นหรือเหนียงดูชัดขึ้นได้ ดังนั้นความเหมาะสมในการออกแบบรูปหน้าและการเลือกใช้โบท็อกซ์หรือเลเซอร์ในแต่ละรายขึ้นอยู่กับลักษณะใบหน้าและสาเหตุของความหย่อนคล้อยที่แตกต่างกันไปของแต่ละคนค่ะ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินเป็นรายๆไปนะคะ

Loading ...
Success