พูดคุยกับแพทย์อย่างเป็นส่วนตัว ผ่านแอพ Chiiwii

  • Q เป็นงูสวัด ครั้งที่ 2
    15-06-2017 14:39:42

    เป็นผู้ชายอายุ 31 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีโรคทางกรรมพันธ์, ไม่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็ง ไม่สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์ตามงานสังสรรค์ ตอนเด็กเคยเป็นอีสุกอีใส เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นงูสวัดขึ้นบริเวณเอวด้านขวา 3 เดือนก่อน พักผ่อนน้อย มีอาการปวดเมื่อยตามตัว และมีผื่นลักษณะเป็นผื่นแดง และมีตุ่มน้ำใส ขนาดประมาณ 3*4 เซนติเมตรบริวณไหล่ซ้ายด้านหลัง ได้รับการรักษาโดยทานยา acyclovir 800 มิลลิกรัม 1 เม็ด วันละ 5 ครั้ง ทานทั้งหมด 10 วัน และทายา acyclovir cream หลังจากนั้นแห้งและก็หายไป คำถามที่อยากปรึกษา 1. โอกาสที่จะเป็นงูวัดครั้งที่ 2 มีมากน้อยแค่ไหนครับ? 2. ควรจะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ครับ? 3. ต้องคิดถึงโรคที่เกี่ยวข้องอื่นๆหรือไม่ครับ? 4. วัคซีนป้องกันงูสวัดสามารถช่วยได้หรือไม่ครับ? ขอบพระคุณอย่างสูงครับ


    17-06-2017 01:22:55

    ขอบคุณที่ให้ข้อมูลโดยละเอียดนะคะ มีประโยชน์มากค่ะ
    หมอขอตอบเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

    1. โอกาสที่จะเป็นงูสวัดครั้งที่ 2 มีมากน้อยแค่ไหนครับ?
    ขึ้นกับภูมิคุ้มกันของร่างกายค่ะ งูสวัดมีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้นหรือกลับเป็นซ้ำ ขึ้นกับว่าร่างกายมีความเสี่ยงทำให้เชื้อไวรัส 
    varicella-zoster virus (VZV) ที่ซ่อนอยู่ที่ปมประสาท หลังจากที่เคยได้รับเชื้อมาแล้ว ถูกกระตุ้นให้เชื้อไวรัสก่อโรคขึ้นอีกครั้ง โดยทำให้การอักเสบตามแนวเส้นประสาท จนแสดงรอยโรคที่ผิวหนังเป็นกลุ่มตุ่มน้ำบนพื้นแดงเป็นแนวยาว โดยความเสี่ยงที่ทำให้เป็นซ้ำได้ง่าย ได้แก่ อายุมาก (อายุมากกว่า 60 ปี), ภูมิร่างกายทำงานต่ำลง (CMI defect) เช่น มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ทานยากดภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น สเตียรอยด์, รับยาเคมีบำบัด, ผู้ป่วยปลูกถ่ายไขกระดูก เป็นต้น 

    2. ควรจะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ครับ?
    ไม่มีการตรวจเพิ่มเติมที่จำเป็น ถ้าหากไม่มีอาการค่ะ
      
    3. ต้องคิดถึงโรคที่เกี่ยวข้องอื่นๆหรือไม่ครับ?
    คนทั่วไป ถ้ามีช่วงที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานน้อยลงก็ทำให้เป็นงูสวัดซ้ำได้ค่ะ ถ้ามีความเสี่ยงดังข้อ 1 ก็จะเป็นงูสวัดที่รุนแรงขึ้น และมีอาการอยู่นานกว่าปกติได้ค่ะ   
      
    4. วัคซีนป้องกันงูสวัดสามารถช่วยได้หรือไม่ครับ? 
    ถ้าอายุน้อย และร่างกายแข็งแรงดี ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนนะคะ

    องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาหรือ FDA แนะนำว่า ควรฉีดวัคซีนในคนสูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเคยหรือไม่เคยเป็นงูสวัดมาก่อน วัคซีนงูสวัดเป็นแบบฉีดครั้งเดียว กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายอยู่ได้นานโดยเฉลี่ย 10 ปี ซึ่งจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ครึ่งหนึ่ง และถ้าหากเป็นโรคก็จะมีความรุนแรงลดลง และลดความเจ็บปวดตามแนวเส้นประสาทหลังจากมีผื่นได้กว่าสองในสามของผู้ป่วยค่ะ 

  • Q ฝ้า
    05-06-2017 17:49:18

    มียาทาฝ้าตัวไหนที่แนะนำให้ใช้ จะได้ไม่ต้องไปเลเซอร์ไหมค่ะ


    06-06-2017 05:43:36

    การใช้ยาทาฝ้าควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกยาที่เหมาะสมตลอดจนอธิบายการใช้เพื่อการใช้ที่ถูกต้องเพื่อผลการรักษาที่ดีและไม่เกิดผลข้างเคียง การซื้อเครื่องสำอาง เวชสำอางและยาทาเพื่อรักษาฝ้าด้วยตนเองอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาเนื่องจากการใช้สารอันตรายหรือการใช้ที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การแพ้ การระคายเคือง ฝ้าเลือด   การแนะนำยารักษาฝ้าจากแพทย์ควรได้พบตัวคนไข้ เพราะการสั่งยาโดยฟังจากอาการหรือดูภาพอาจได้รับการรักษาที่ไม่ตรงจุด  การเกิดฝ้ามีหลายปัจจัยที่ทำให้เซลล์สร้างสีผิดปกติไป เช่น แสงแดด ฮอร์โมน ยาบางชนิด ตลอดจนต้องแยกจากความผิดปกติของเม็ดสีจากสาเหตุอื่น

    ติดตามความรู้ผิวหนัง ความงาม สุขภาพ  จากหมอหนึ่ง พ.ญฺ. ชุลีกร วรยิ่งยง ได้ทางช่องทาง http://www.facebook.com/dr1chuleekorn และ http://www.dr1wellness.blogspot.com

  • Q รักษาคีลอยด์
    04-06-2017 23:20:25

    เป็นเนื้อนูนๆบริเวณกรามขอบใบหน้า เมื่อก่อนบริเวณนี้เคยเป็นสิว พออากาศร้อนๆชอบคันแล้วเกาตรงที่นูนๆมันจะเห็นได้ชัดมาก คีลอยด์ค่อนข้างแข็งนิดนึง วิธีรักษาหรือบรรเทาลงใช้วิธีไหนคะ เป็นได้ประมาณ1-2ปีแล้วค่ะ


    06-06-2017 06:04:55

    การรักษาคีลอยด์ทำได้โดยฉีดยาเพื่อลดขนาดโดยอาจต้องใช้หลายครั้งห่างกัน2-4อาทิตย์  นอกจากนี้อาจเสริมด้วยเลเซอร์ในการลดขนาดและความแดง การใช้แผ่นปิด และยาทาโดยขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์  ที่สำคัญในการดูแลตนเองต้องอย่าจับหรือถูบริเวณคีลอยด์บ่อยจะเป็นการกระตุ้นให้ขนาดขยายได้ค่ะ

    ติดตามความรู้ผิวหนัง ความงาม และสุขภาพ จากหมอหนึ่ง พ.ญ.ชุลีกร วรยิ่งยง ได้ทางช่องทาง http://www.facebook.com/dr1chuleekorn และ http://www.dr1wellness.blogspot.com

  • Q สิวที่หลัง
    02-06-2017 12:39:09

    ผมเป็นสิวที่หลังเยอะเลยครับเป็นมา 6ปีแล้วครับเมื่อก่อนเป็นเเบบอักเสบเเต่ตอนนี้อุดตันเเต่ไม่ค่อยเยอะเหมือนเมื่อก่อนเเถมเป็นจุดด่างดำเต็มเลยต้องรักษาไงครับ


    03-06-2017 13:58:32

    การรักษาสิวที่หลังทำได้ตั้งแต่ใช้ยาทาเพื่อละลายหัวสิว ยาทาลดการอักเสบของสิว ถ้ามีสิวมากหรืออักเสบมากอาจต้องใช้ยารับประทานร่วมด้วยซึ่งมีหลายประเภท ตั้งแต่ยาฆ่าเชื้อลดอักเสบ ยาลดการทำงานของต่อมไขมัน  ส่วนเรื่องรอยดำก็สามารถใช้ยาทาเพื่อผลัดเซลล์ ยาทาเพื่อลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี  การรักษาอื่นๆได้แก่ การทำทรีทเมนต์เพื่อผลัดเซลล์และช่วยลอกหัวสิว การเลเซอร์ช่วยลดการอักเสบและรอยสิว โดยทั้งหมดนี้ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกวิธีให้เหมาะกับแต่ละบุคคล รวมถึงงบประมาณและค่าใช้จ่าย

    ติดตามบทความอื่นๆเรื่องผิวหนัง ความงาม และสุขภาพของหมอหนึ่ง พ.ญ.ชุลีกร วรยิ่งยง ได้ที่  dr1wellness.blogspot.com  www.facebook.com/dr1chuleekorn

     

  • Q เป็นผื่น
    26-05-2017 04:17:08

    อยากทราบข้อมูลของโรคผิวหนังเครียดกับภูมิแพ้ว่าแตกต่างกันไหม


    30-05-2017 19:50:11

    "ผิวหนังเครียด"ในที่นี้หมายถึงการที่ผิวเป็นผื่นแดงคันเวลาเครียดหรือเปล่าคะ 

    ลักษณะของผิวภูมิแพ้ คือเป็นผิวที่ระคายเคืองง่ายจากปัจจัยกระตุ้นต่างๆทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ความเครียดทางใจและกายก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเกิดผื่นได้ค่ะ 

  • Q เล็บมือและเท้าเป็นคลื่นทุกเล็บเป็นเพราะอะไรค่ะ
    23-05-2017 20:37:24

    เล็บมือเล็บเท้าเป็นคลื่นทุกเล็บเลยค่ะ ทานผักผลไม้เยอะมากไม่ขาด เป็นเพราะขาดสารอาหารอะไร หรือควรทำอย่างไรค่ะ


    31-05-2017 21:22:04

    การที่เล็บมือและเท้าเป็นคลื่นมีได้หลายสาเหตุ ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการขาดสารอาหารอย่างเดียวค่ะ ภาวะอื่นๆที่พบเล็บเป็นคลื่นได้เกิดจากมีรบกวนของเซลล์สร้างเล็บที่อยู่บริเวณจมูกเล็บ ได้แก่ การได้รับการกระทบกระแทก การติดเชื้อ การมีโรคที่กระทบกระเทือนเซลล์สร้างเล็บ เป็นต้น สมควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ การวินิจฉัยโรคผิวหนังเพียงแค่อาการและภาพถ่ายอาจผิดพลาดได้ค่ะ

    ติดตามความรู้จากหมอหนึ่งได้อีกหนึ่งช่องทาง www.facebook.com/dr1chuleekorn

  • Q สุขภาพจากเล็บ
    22-05-2017 13:15:44

    ในเล็บนิ้วโป้งมือ เป็นเส็นสีดำ สีไม่ชัดเจนมาก แต่เห็นเป็นเส้นค่ะ เป็นแค่นิ้วเดียว จะเป็นอะไรไหมค่ะ


    25-05-2017 00:52:08

    เล็บเป็นเส้นสีดำ ถ้าเป็นหลายเล็บกับเล็บเดียว สาเหตุไม่เหมือนกันนะคะ

    กรณีนี้เป็นเล็บเดียวบริเวณนิ้วโป้งมือ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น ไฝที่ใต้เล็บ, แกะเกาเล็บซ้ำๆ บริเวณเดิมบ่อยๆ, มีการอักเสบบริเวณโคนเล็บ เช่น สะเก็ดเงินที่เล็บ, เชื้อรา เป็นต้น ถ้าหากเป็นสีน้ำตาลจางๆ ขอบเรียบ เส้นเล็ก ไม่มีการอักเสบบริเวณโคนเล็บ ไม่มีลักษณะของเล็บผิดรูป สามารถสังเกตดูอาการไปก่อนได้ค่ะ

    ถ้าหากเส้นสีดำกว้างขึ้นไว มีสีดำเข้มมาก และขอบสีดำขรุขระ รวมทั้งมีเล็บผิดรูป อาการเหล่านี้น่ากังวลควรไปพบแพทย์ค่ะ ลองสังเกตอาการดูนะคะ 

  • Q เป็นงูสวัดครับ
    15-05-2017 18:31:08

    ผมเป็นงูสวัด เป็นมา 1 เดือนแล้วครับ เป็นที่หน้าผาก ตอนนี้น่าจะหายดีแล้วครับ แต่ยังมีอาการคันที่แผลที่เป็น และขอบตาครับ อยากทราบตัวยาที่กิน หรือทาครับ


    16-05-2017 00:34:41

    อาการคันที่บริเวณแผลเป็น เป็นสัญญาณบอกเหตุที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะคะ อาจหมายความว่าแผลเป็นนั้นมีโอกาสที่จะกลายเป็นคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนได้ค่ะ อยากขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อรับการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะได้ป้องกันแผลเป็นนูนได้รวดเร็วที่สุดค่ะ เพราะถ้าเป็นเยอะแล้วจะทำให้การรักษายิ่งยากขึ้นค่ะ

  • Q ตรงรอยต่อระหว่างปีกจมูกกับหน้าชอบลอกเป็นขุยๆครับ
    14-05-2017 13:21:11

    เป็นสองที่ครับ อีกที่คือช่วงหัวคิ้ว พอเป็นก็ทาเสตียรอยด์(หลังอาบน้ำเย็น) คืนต่อไปก็ดีขึ้น ไม่ลอกเป็นขุยได้ซัก 4-5 วันก็กลับมาเป็นใหม่ ก็ทาใหม่วนลูปไปงี้ครับ ไม่ทราบต้องทำไงค่อยให้มันหายขาดเลยครับ ขอบคุณครับ


    16-05-2017 01:57:34

    อาการเข้าได้กับผื่นเซปเดิร์ม (seborrheic dermatitis) นะคะ เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิดหนึ่ง ถ้าเครียด พักผ่อนน้อย ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์กระตุ้นให้ผื่นเห่อได้ค่ะ ภูมิแพ้ผิวหนังอาจจะไม่ได้หายขาด แต่ควบคุมอาการได้ค่ะ 

    ถ้าช่วงผื่นเห่ออักเสบ แนะนำให้ทายาสเตียรอยด์อ่อนๆ เช่น hydrocortisone cream, prednicabate cream, 0.02%triamcinolone cream วันละ 1-2 ครั้ง เป็นต้นค่ะ ช่วงที่อาการดีขึ้นแล้วให้ค่อยๆลดความถี่ในการทายาลง จนหยุดยา
    ถ้าผื่นเห่อบ่อย อยากลดการใช้ยาทาสเตียรอยด์ลงบ้าง และไม่อยากกลับเป็นซ้ำบ่อย แนะนำให้ทายากลุ่ม calcinurin inhibitor ค่ะ เช่น protopic ointment ทาวันละครั้ง หรือวันเว้นวัน แล้วลดความถี่ลง จะช่วยลดการเห่อได้บ้างค่ะ

  • Q แผ่นขุยสีขาวๆ ซอกหลังใบหู
    07-05-2017 22:19:13

    มีอาการคันบรีเวณซอกหลังใบหูซ้าย เอานี้วถูๆจะรู้สึกสากๆ เหมือนเป็นขุย ยี่งเวลาแกะเกาออกมาจะเป็นแผ่นขาวๆ แห้งๆ ขุ่นๆ .... บางครั้งแกะเกาเสร็จด้วยความเมามันส์ จะมีน้ำใสๆ หรือบางครั้งมีเลือดซึมๆ...เป็นเรื้อรังเป็นๆหายๆ หลายปีแล้วค่ะ เมื่อก่อนจะทายา Topicort 0.25% (เป็นขวดเล็กๆ) แล้วหาย ไม่ถึงครึ่งเดือนเป็นขึ้นมาอีก หลังๆเลยไม่ได้ใช้ยาอะไรเลย ตัดผมสั้น ไม่กล้าไว้ยาวเพราะต้องรวบผม....(นีสัยส่วนตัว...นอนดึก ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เครียดบางครั้งค่ะ เป็นโรคหืดที่คุมอาการได้ ใช้ยา Symbicort พ่นทุกวันด้วยค่ะ) คำถาม --เป็นโรคอะไรแล้วมีสาเหตุจากอะไรบ้างคะ --มีข้อแนะนำสำหรับการรักษาหรือ การปฎีบัตตัวต่อโรคนี้อย่างไรบ้าง --ถ้าใช้ยาพวกนี้ติดต่อนานๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง คนท้องใช้ยานี้อันตรายมั๊ยคะ --ควรใช้ยาสระผมยี่ห้ออะไรดี... --มีโอกาสหายขาดไหมคะ


    16-05-2017 01:43:28

    ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบช้านะคะ

    จากอาการที่เล่ามาเข้าได้กับโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ หรือเรียกทับศัพท์ว่า เซปเดิร์ม (seborrheic dermatitis) ค่ะ จะมีผื่นบริเวณซอกใบหูได้ ไรผม หว่างคิ้ว ข้างจมูก บางครั้งอาจทำให้มีรังแคได้ 
    โรคนี้นั้น ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัดค่ะ แต่เชื่อว่าปัจจัยกระตุ้นส่วนหนึ่งเกิดจากเชื้อยีสต์กลุ่ม Malassezia และความมันบนหนังศีรษะและใบหน้า ทำให้เกิดการอักเสบ มีผื่นขุยเป็นๆ หายๆ ได้ 

    ดังนั้นถ้าหากอาการกำเริบ อาจพิจารณาใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ทาช่วยบรรเทาอาการค่ะ ยาทาที่ใช้อยู่สามารถใช้ได้นะคะ แต่ควรใช้เมื่อมีผื่นเท่านั้น และมีช่วงพักบ้างถ้าไม่มีผื่น ในส่วนคนท้องสามารถใช้ยานี้ค่ะ ในปริมาณน้อยๆ และทาในพื้นที่ไม่กว้าง เฉพาะช่วงที่อาการกำเริบ แต่ถ้าเป็นมากๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานะคะ, สระผมด้วยแชมพูขจัดรังแค หรือแชมพูยา Ketoconazole จะช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ, หลีกเลี่ยงการดัด ยืด ย้อมผมบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ

    เรื่องความเครียด, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มีส่วนกระตุ้นให้ผื่นเห่อได้ในผู้ป่วยบางราย 

    เนื่องจากโรคนี้เป็นเหมือนภูมิแพ้หนังศีรษะ อาการจึงอาจเป็นๆ หายๆ และมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ ถ้ารักษาต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ก็มักจะทำให้อาการดีขึ้นและควบคุมได้นะคะ 

Loading ...
Success